สุดสะเทือนใจ! “คุณป้าอารียา” กระเป๋ารถเมล์สาย 133 วัย 63 ปี ประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่จนข้อมือหักทั้งสองข้าง ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ไม่มีรายได้ และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือทั้งจากบริษัทต้นสังกัดและคู่กรณี แม้เวลาผ่านไปกว่า 4 เดือน
เวลา 12.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ที่บริเวณริมฟุตบาทหน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีตสห.ทอ. พา นางอารียา เหมะพันธุ์ อายุ 63 ปี อาชีพพนักงานเก็บค่าโดยสารรถประจำทางสาย 133 (เคหะบางพลี – วัดธาตุทอง) เข้าพบสื่อมวลชนเพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังประสบอุบัติเหตุร้ายแรงระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แต่กลับไร้การเยียวยาทั้งจากบริษัทและคู่กรณ
คุณป้าอารียาเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 ขณะทำหน้าที่เก็บค่าโดยสารบนรถโดยสารสาย 133 ที่วิ่งผ่านย่านซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ ได้มีรถยนต์คันหนึ่ง ตัดหน้ากระชั้นชิด ทำให้คนขับรถเมล์เบรกกะทันหัน ตนซึ่งยืนอยู่บริเวณท้ายรถเสียหลักล้มลง แม้พยายามใช้สองมือยันพื้น แต่แรงกระแทกกลับทำให้ กระดูกแขนทั้งสองข้างหัก ทันที
หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีช่วยนำส่งโรงพยาบาล ผลเอกซเรย์ยืนยันว่ากระดูกแขนหักทั้งสองข้าง ต้องรักษาตัวเป็นเวลา 90 วัน ขณะที่คนขับรถคู่กรณีซึ่งเคยให้สัญญาว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ก็เงียบหายไร้การติดต่อ ส่วนบริษัทต้นสังกัดก็เพียงจ่าย “เงินเดือนสุดท้าย” โดยไม่ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมใด ๆ
ป้าอารียาเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ปัจจุบันอาศัยอยู่กับแม่วัยชราในแฟลตเคหะบางพลี ชั้น 4 ต้องปีนขึ้นลงอย่างยากลำบากเพราะแขนใช้งานไม่ถนัด ขาดรายได้หลัก ต้องรับจ้างล้างจานได้วันละเพียง 100–150 บาท เพื่อประทังชีวิต
ด้าน จ่าคิงส์ แตงทิม ระบุว่า หลังเหตุการณ์ผ่านมา 4 เดือน บริษัทและคู่กรณียังไม่มีการเยียวยาใด ๆ ทั้งที่คุณป้าได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่โดยตรง จึงนำคุณป้ามาขอคำปรึกษาที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อหาทางดำเนินคดีและเรียกร้องความเป็นธรรม
ล่าสุด พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้ พร้อมประสานไปยัง พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ เพื่อเร่งติดตามคู่กรณีให้มารับผิดชอบและช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลโดยเร็ว
เหตุการณ์นี้สะท้อนปัญหาความเปราะบางของแรงงานภาคบริการ โดยเฉพาะพนักงานขนส่งสาธารณะที่เสี่ยงอันตรายระหว่างปฏิบัติงาน แต่กลับไม่ได้รับการคุ้มครองหรือเยียวยาอย่างเป็นธรรม
