กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบช.ก. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.สำเริง อำพรรณทอง, พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ., กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) โดย นพ.ภูวเดช สุระโคตร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกันปฏิบัติการจับกุมผู้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภทกิจการการดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้มีภาวะพึ่งพิง โดยไม่ได้รับอนุญาต
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.หญิง อนุสรา บัวแดง สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และประชาชนให้ตรวจสอบสถานบริการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงที่ลักลอบเปิดดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่มีการควบคุมการทิ้งและทำลายขยะติดเชื้อ รวมถึงมีการทิ้งขยะลงท่อระบายน้ำจนส่งผลให้เกิดการอุดตัน ส่งผลกระทบต่อชุมชนในพื้นที่
โดยในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นำหมายค้นของศาลแขวงดอนเมือง เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พบ นายปรเมศวร์ (สงวนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหา กำลังให้บริการกับผู้สูงอายุที่เข้ารับบริการ จากการตรวจสอบพบว่านายปรเมศวร์ ไม่มีใบอนุญาตผู้ดำเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภทดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้มีภาวะพึ่งพิง และสถานที่ดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพแต่อย่างใด
นายปรเมศวร์ ยอมรับว่าตนจบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ ไม่มีความรู้ด้านการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ทำการเปิดสถานประกอบการฯ แห่งนี้โดยไม่ได้ขออนุญาตฯ แต่ได้จดทะเบียนบริษัทจำกัดเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยคิดค่าดูแลเดือนละ 18,000 บาท ทำมาแล้วประมาณ 6 เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันจับกุม นายปรเมศวร์ ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ฐาน “ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภท กิจการการดูแลผู้สูงอายุ หรือ ผู้มีภาวะพึ่งพิง โดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. กล่าวว่า กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “สถานประกอบการเถื่อน” ซึ่งเป็นภัยอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้สูงอายุที่เข้ารับบริการ การที่ผู้ดำเนินการไม่มีใบอนุญาตและขาดความรู้ความสามารถตามมาตรฐานที่กำหนด ย่อมหมายความว่า การดูแลอาจเป็นไปอย่างไม่ถูกต้อง ผู้ดูแลอาจมีทักษะในการปฏิบัติงานจริงไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และอาจนำมาซึ่งอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของผู้สูงอายุที่มาใช้บริการ ซึ่งในขณะที่สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ความต้องการสถานบริการดูแลผู้สูงอายุที่มีคุณภาพจึงเพิ่มสูงขึ้น แต่กลับมีผู้ประกอบการที่ฉวยโอกาส ลักลอบเปิดกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยใช้กลยุทธ์ “ค่าบริการราคาถูก” เป็นเครื่องมือล่อใจ
การจับกุมครั้งนี้คือการส่งสัญญาณเตือนไปถึงผู้ที่คิดจะเปิดกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภทกิจการการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่เข้ารับบริการ และขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนก่อนพาผู้สูงอายุเข้ารับบริการ ต้องตรวจสอบใบอนุญาตสถานประกอบการฯ ผ่านเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขทุกครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับผู้สูงอายุญาติของท่านเอง หากพบเบาะแสที่น่าสงสัย สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน บก.ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค.
