วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 23, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมยายใจสลาย! อุ้มหลาน 11 เดือน บุก "ปวีณา" จี้ตามหาหลานสาว 12 ปี ถูกแม่พาไป "ค้าประเวณีญี่ปุ่น" แม่ถูกจับไต้หวัน!

Related Posts

ยายใจสลาย! อุ้มหลาน 11 เดือน บุก “ปวีณา” จี้ตามหาหลานสาว 12 ปี ถูกแม่พาไป “ค้าประเวณีญี่ปุ่น” แม่ถูกจับไต้หวัน!

วิกฤตครอบครัวไทยในต่างแดน! เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2568 ยายและป้าได้เดินทางมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมอุ้มหลานชายวัย 11 เดือน เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ประสานงานติดตามชะตากรรมของหลานสาววัย 12 ปี ที่ตกเป็นเหยื่อข่าวใหญ่ของสื่อญี่ปุ่นว่า ถูกแม่คนไทยพาไปค้าประเวณีในร้านนวดที่ญี่ปุ่น ขณะที่แม่ของเด็กถูกจับกุมในไต้หวัน ข้อหาอยู่เกินกำหนดและค้าประเวณี นางปวีณา เตรียมประสาน ผบ.ตร. และตำรวจสากล เพื่อเร่งรัดติดตามสถานการณ์ 2 แม่ลูกทันที

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 10.00 น. ยายและป้า พร้อมอุ้มหลานชายวัย 11 เดือนที่เกิดในประเทศญี่ปุ่น ได้เดินทางมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ด้วยน้ำตา เพื่อขอให้ช่วยติดตามหลานสาววัย 12 ปี ที่ประเทศญี่ปุ่น หลังทราบข่าวช็อกโลกจากสื่อญี่ปุ่นว่า แม่คนไทยพาลูกสาวไปค้าประเวณีที่ร้านนวด ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรมที่ชัดเจนของสองแม่ลูก

นางปวีณา เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้รับทราบข่าวจากสื่อญี่ปุ่นที่เดินทางมาสัมภาษณ์ที่มูลนิธิฯ ซึ่งทำให้รู้สึกตกใจอย่างยิ่ง จึงได้ประสานไปยังกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ด.ญ.บี (นามสมมติ) วัย 12 ปี ปลอดภัยดี และอยู่ในความดูแลของทางการญี่ปุ่น ขณะที่ข้อมูลล่าสุดระบุว่า แม่ของเด็กหญิง คือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ถูกจับกุมที่ประเทศไต้หวัน ในข้อหาอยู่เกินกำหนดและค้าประเวณี

“ยายรู้ข่าวถึงกับเป็นลม เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวบอกว่าจะพาหลานสาว 12 ปี ไปช่วยเลี้ยงลูกอีกคนที่ญี่ปุ่น แต่จู่ๆ นักข่าวญี่ปุ่นก็มาสัมภาษณ์ว่าหลานถูกพาไปค้าประเวณี ยายกินไม่ได้นอนไม่หลับ ใจจะขาดอยู่แล้ว” ยายกล่าวด้วยความกังวลอย่างที่สุด จึงตัดสินใจเดินทางมาร้องขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเป็นตัวแทนในการประสานงานกับหน่วยงานราชการ

นางปวีณา ได้เตรียมประสานไปยัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ซึ่งได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร. (ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สตช.) และ พล.ต.ต.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ตำรวจสากล) ดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยมูลนิธิฯ จะพายายและป้าเข้าพบรอง ผบ.ตร. และประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอทราบความคืบหน้าจากทางการญี่ปุ่นและไต้หวันต่อไป

จุดยืนด้านกฎหมายค้ามนุษย์
นางปวีณา ยังกล่าวถึงกรณีที่สื่อญี่ปุ่นสอบถามความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายญี่ปุ่นที่มุ่งเน้นลงโทษผู้ค้าบริการผิดกฎหมาย แต่ผู้ซื้อบริการไม่ผิดกฎหมาย ว่า ประเทศไทยได้มีการแก้ไข พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 โดยให้ผู้หญิงที่ค้าประเวณีไปฟื้นฟูสภาพจิต ฝึกอาชีพ และดำเนินคดีกับผู้ชายที่ซื้อบริการ ซึ่งนางปวีณาหวังว่าทางการญี่ปุ่นจะดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อที่ถูกหลอกไปค้าประเวณี และมีบทลงโทษผู้ซื้อบริการให้เข้มข้นขึ้น

ภูมิหลังของการเดินทาง
ยายเปิดเผยว่า น.ส.เอ ลูกสาว เป็นเสาหลักของครอบครัว เลี้ยงดูพ่อแม่ที่แก่ชราและมีลูกสาวอีก 2 คน คือ ด.ญ.บี อายุ 12 ปี และลูกสาวคนเล็กอายุ 11 ปี โดย น.ส.เอ เคยทำงานรับจ้างก่อสร้าง ก่อนจะเปลี่ยนไปทำงานนวดแผนไทย และถูกคนรู้จักชักชวนไปทำงานที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2565 โดยส่งเงินมาดูแลครอบครัวเดือนละประมาณ 2,000-3,000 บาท

กระทั่งเดือน พ.ค. 2568 น.ส.เอ ได้คลอดลูกชายที่ญี่ปุ่นอีกคน และได้กลับมาไทยเพื่อรับ ด.ญ.บี ลูกสาวคนโต (ซึ่งขณะนั้นปิดเทอม) ไปช่วยเลี้ยงน้องที่ญี่ปุ่น โดยสัญญาว่าจะพาลูกคนโตกลับมาเรียนต่อ และนำลูกชายคนเล็กกลับมาให้ยายเลี้ยงที่ไทย

กลางเดือน ส.ค. 2568 น.ส.เอ ได้นำลูกชายคนเล็กที่เพิ่งคลอดกลับมาให้ยายเลี้ยงที่เพชรบูรณ์ แต่ฝาก ด.ญ.บี ไว้กับเพื่อนของแม่ที่ร้านนวดในญี่ปุ่น โดยอ้างว่า เงินซื้อตั๋วเครื่องบินไม่พอ จากนั้น น.ส.เอ ก็เดินทางไปไต้หวันเพื่อหาเงินซื้อตั๋วเครื่องบินมารับลูกสาว แต่เพียงไม่กี่วันก็ปรากฏข่าวการถูกจับกุมที่ไต้หวัน และข่าวการพาลูกไปค้าประเวณีที่ญี่ปุ่น ทำให้ครอบครัวเกิดความทุกข์ใจอย่างหนัก.

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts