สิ้นอิสรภาพ! DSI ลากคอหัวหน้า ‘บัญชีม้า’ สแกมเมอร์ออนไลน์ ศาลอาญาไม่อนุญาตประกันตัว สั่งขังทันที ชี้คดีร้ายแรงกระทบความมั่นคง!
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เดินหน้ากวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างไม่ลดละ ล่าสุดจับกุม นางสาวญานิศา อายุ 58 ปี ผู้ต้องหารายที่ 19 จากทั้งหมด 23 ราย ในคดีพิเศษที่ 83/2566 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการ บริหารจัดการ “บัญชีม้า” และการเงินให้เครือข่ายสแกมเมอร์ที่โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ภาครัฐ หลัง DSI นำตัวส่งศาลอาญาเพื่อฝากขัง ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่ง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีความร้ายแรงและซับซ้อน มุ่งทำลายรากฐานความมั่นคงทางระบบคอมพิวเตอร์และหลอกลวงประชาชน
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้นำตัว นางสาวญานิศา (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ซึ่งถูกจับกุมตัวได้ที่จังหวัดชลบุรี มายื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขอฝากขัง พร้อมยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัวอย่างหนักแน่น
น.ส.ญานิศา นับเป็นผู้ต้องหารายที่ 19 ที่ถูกจับกุมได้ในคดีพิเศษที่ 83/2566 ซึ่งเป็นคดีใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ เครือข่ายสแกมเมอร์ออนไลน์ ที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง ทั้งการโจมตีและเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานภาครัฐโดยมิชอบ เพื่อใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงประชาชนและกระทำความผิดเกี่ยวกับพนันออนไลน์ โดยขณะนี้ยังคงเหลือผู้ต้องหาที่ต้องติดตามจับกุมอีก 4 ราย
จากการสืบสวนของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองเทคโนโลยีและสารสนเทศ พบว่า น.ส.ญานิศา มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการ บริหารจัดการ “บัญชีม้า” และดำเนินการด้านการเงินให้กับเครือข่ายสแกมเมอร์ดังกล่าว ซึ่งบัญชีเหล่านี้เป็นเครื่องมือหลักที่ถูกใช้ในการหลอกลวงประชาชนและหมุนเวียนเงินที่ได้จากการพนันออนไลน์ มูลค่าความเสียหายสูงและมีความซับซ้อน
ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันฟอกเงิน , เข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ , เปลี่ยนแปลงข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และ ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากเพื่อการกระทำความผิด
ภายหลังการพิจารณาคำร้อง ศาลอาญาได้มีคำสั่ง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว ผู้ต้องหาตามคำคัดค้านของ DSI โดยศาลได้สั่งให้ส่งตัวผู้ต้องหาไปควบคุมระหว่างการพิจารณาคดีที่ทัณฑสถานหญิงกลางทันที การตัดสินใจดังกล่าวเพื่อป้องกันการหลบหนีและป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนจากภาครัฐถึงความมุ่งมั่นในการ ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเข้มงวดเด็ดขาด
DSI ยืนยันว่าจะเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 รายต่อไป เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อกวาดล้างเครือข่ายนี้ให้สิ้นซาก.





