เกิดเหตุสะเทือนขวัญในซอยนาจอมเทียน 8 ชลบุรี เมื่อสุนัขเลี้ยง 2 ตัว คือ “Otto” และ “King Kong” ถูกวางยาพิษจนเสียชีวิตอย่างทรมาน พร้อมนกป่าที่มากินอาหารล้มตายยกรังกว่า 30 ตัว นาง Ratsiri เจ้าของสุดช้ำยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะที่กล้องวงจรปิดพุ่งเป้าไปที่ชาวต่างชาติฉายา “โทนี่” ผู้ต้องสงสัยที่มีประวัติพฤติกรรมก้าวร้าวในชุมชนมานาน โดยชาวบ้านกังวลเนื่องจากผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมข่มขู่ ทำให้หวาดกลัวการแจ้งความ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจสอบหลักฐานและซากสัตว์เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตาม พ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม เวลาประมาณ 10.00 น. บริเวณซอยนาจอมเทียน 8 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้เกิดเหตุการณ์สุดสลดที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับชุมชนและคนรักสัตว์อย่างรุนแรง เมื่อพบว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้านจำนวน 2 ตัว คือ “Otto” และ “King Kong” ถูกลอบวางยาพิษจนเสียชีวิตอย่างทรมาน
นอกจากสุนัขแล้ว ภัยร้ายจากสารพิษยังได้คร่าชีวิตของ นกป่า ที่ลงมากินอาหารในพื้นที่ใกล้เคียงอีกกว่า 30 ตัว ทำให้เกิดภาพน่าเวทนาของซากสัตว์ที่ล้มตายอย่างไม่ทันตั้งตัว สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
กล้องวงจรปิดมัดตัว! ชายต่างชาติ “โทนี่” ผู้ต้องสงสัยตัวหลัก
นาง Ratsiri เจ้าของสุนัขผู้เสียหาย เปิดเผยด้วยความรู้สึกปวดร้าวว่า สุนัขทั้งสองตัวเปรียบเสมือน สมาชิกในครอบครัว และไม่ใช่เพียงแค่สัตว์เลี้ยงทั่วไป เธอจึงยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะ ไม่ยอมความ และจะดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพื่อให้ผู้ที่มีข้อมูลช่วยเหลือหรือให้เบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้
จากหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงร้าน “Drifte Beach Cafe” พบ ชายชาวต่างชาติ รายหนึ่งเดินอยู่ในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งชาวบ้านในชุมชนให้การยืนยันตรงกันว่า ชายผู้นี้คือคนเดียวกับที่รู้จักกันในชื่อเล่นว่า “Tony” และมีพฤติกรรมที่ ก้าวร้าวทำตัวเป็นอันธพาล ในชุมชนมาเป็นเวลานาน
มีรายงานข่าวลือจากชาวบ้านว่า นายโทนี่รายนี้เคยก่อเหตุ วางยาสุนัข ในหมู่บ้านมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีใครกล้าที่จะแจ้งความ เนื่องจากถูกข่มขู่ว่าตนเอง “มีทนายและเงิน” ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่รู้สึกหวาดกลัวและเลือกที่จะไม่สร้างปัญหา
เจ้าของย้ำ! ต้องการให้คดีเป็นบรรทัดฐาน คุ้มครองสัตว์อย่างจริงจัง
การกระทำในครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการ กระทำที่โหดร้ายเกินรับได้ และเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ซึ่งมีบทลงโทษที่รุนแรงคือ โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ได้เข้ามารับแจ้งความแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการ ตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และ เก็บตัวอย่างซากสัตว์ เพื่อส่งตรวจหาสารพิษที่เป็นสาเหตุของการตายอย่างละเอียด พร้อมเร่งสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทุกรายเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว
ชาวบ้านจำนวนมากออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมปศุสัตว์ และองค์กรพิทักษ์สัตว์ทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาตรวจสอบและดำเนินการอย่างจริงจัง เนื่องจากมีความกังวลว่า หากปล่อยปละละเลย อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ ซ้ำรอยหรือรุนแรงขึ้น ในอนาคต
กระแสในสังคมออนไลน์เองก็กำลังให้ความสนใจอย่างล้นหลาม มีการ ติดแฮชแท็ก กดดันให้มีการดำเนินคดีอย่างโปร่งใสและเด็ดขาด เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ถือว่า อำมหิตต่อสัตว์ และสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่นาจอมเทียนเป็นอย่างยิ่ง










