“อี้ แทนคุณ” พร้อมผู้เสียหายเข้ายื่นร้องกองปราบปราม เอาผิดกลุ่ม “เชื่อมจิต” หลังพบพฤติกรรมอ้างปาฏิหาริย์ หลอกลวงประชาชน และทารุณกรรมเด็กถึงขั้น “กดหัวลงน้ำ–บีบคอ” ชี้เป็นภัยคุกคามพระพุทธศาสนา พร้อมจี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหยุดนิ่งดูดาย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมด้วย เก่ง สุเชษฐ์ ผู้ช่วย และ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี พร้อมสามี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องทุกข์ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “เชื่อมจิต”
“อี้ แทนคุณ” แฉพฤติกรรมสุดอันตราย – ละเมิดเด็ก–บิดเบือนศาสนา
อี้ แทนคุณ เปิดเผยว่า ทางชมรมฯ ได้รวบรวมหลักฐานจำนวนมากที่ชี้ให้เห็นว่า กลุ่ม “เชื่อมจิต” มีพฤติกรรมเข้าข่าย หลอกลวงประชาชนและทารุณกรรมเด็ก โดยมีการกระทำอันโหดร้าย เช่น “กดหัวเด็กลงน้ำ” พร้อมกล่าวอ้างว่าเป็นพิธีชำระล้างบาปของเด็กหญิงที่ถูกเรียกว่า “อนาคามี” และอ้างตนมีพลังพญานาค
“สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เพียงเป็นการล่อลวง แต่ยังคุกคามพระพุทธศาสนาโดยตรง เพราะมีการอ้างตนเป็นผู้บรรลุธรรม ทั้งที่เนื้อหาสอนกลับบิดเบือนหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า” — อี้ แทนคุณ กล่าว
พร้อมระบุว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กลับ นิ่งเฉยและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่มีอำนาจดูแลและปกป้องศาสนา
เปิดคำให้การผู้เสียหาย – แฉพฤติกรรม “อาจารย์น้อง” ในกลุ่มเชื่อมจิต นางเอ (นามสมมติ) อดีตสมาชิกในกลุ่มไลน์โอเพ่นแชตของ “เชื่อมจิต” เปิดเผยว่า ตนถูกเพื่อนในต่างประเทศชวนเข้ากลุ่มเมื่อเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งแต่ละกลุ่มมีสมาชิกสูงสุดถึง 500 คน
ในช่วงแรกมีการจัดกิจกรรมทำบุญ–ปล่อยพญานาค และอ้างว่าสามารถ “ติดต่อมนุษย์ต่างดาว” ได้ แต่ต่อมาเธอเริ่มพบความผิดปกติหลายอย่าง เช่น
- การอวดอ้าง “หายตัวได้” โดยใช้ภาพตัดต่อหลอกลวงสมาชิก
- การเรี่ยไรเงินผ่าน “กองทุนอาจารย์น้อง” เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
- การบิดเบือนหลักธรรมคำสอนพระพุทธศาสนาให้เข้าใจผิด
แต่สิ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้ที่สุด คือการ ใช้ความรุนแรงกับเด็ก โดย “อาจารย์น้อง” เคย จับเด็กหญิงกดน้ำหลายครั้ง และอีกเหตุการณ์หนึ่งคือ บีบคอเด็กหญิงอีกคน ท่ามกลางเสียงเชียร์จากผู้ใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์โดยไม่มีใครห้าม
นางเอกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เธอตัดสินใจออกจากกลุ่ม และยอมเสี่ยงชีวิตมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แม้จะถูกอดีตสมาชิกบางส่วน ข่มขู่และพยายามปิดปาก
ชมรมฯ มอบหลักฐานกองปราบ – จี้เร่งสอบเอาผิดให้ถึงที่สุด
ชมรมสันติประชาธรรมได้มอบหลักฐานทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อดำเนินการตรวจสอบเชิงลึก ทั้งคลิปวิดีโอ ภาพถ่าย และข้อมูลการโอนเงินในกลุ่ม “เชื่อมจิต” พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการหลอกลวงและละเมิดสิทธิเด็กซ้ำอีกอี้ แทนคุณ ทิ้งท้ายว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องศรัทธา แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัยของเด็ก และความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนา เราไม่อาจปล่อยให้การหลอกลวงในนามธรรมะทำลายความศรัทธาของประชาชนได้อีกต่อไป”






