กองปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ เปิดปฏิบัติการบุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวเกาหลีใต้และจีน 17 ราย ยึดคอนโดหรูย่านพระราม 3 – ลุมพินี ใช้เป็นฐานหลอกลงทุน “แชร์ลูกโซ่” ข้ามชาติ สร้างความเสียหายเหยื่อกว่า 500 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผบก.ปอท.
พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บูรณาการร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เปิดปฏิบัติการบุกค้นคอนโดมิเนียมหรู 2 แห่งย่าน พระราม 3 และลุมพินี สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้และจีนรวม 17 ราย
ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต” และ “อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ตาม พ.ร.ก.การบริหารการจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522
ปฏิบัติการเชื่อมโยงเกาหลีใต้ – หลบหนีเข้ามาไทยใช้เป็นฐานหลอกเหยื่อ สืบเนื่องจากความร่วมมือด้านข้อมูลระหว่างตำรวจไทยและเกาหลีใต้ พบเบาะแสว่ามีกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวเกาหลีใต้หลบหนีจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาอาศัยในพื้นที่ พัทยา จังหวัดชลบุรี ก่อนย้ายมาปักหลักในกรุงเทพฯ
แก๊งนี้มีรูปแบบการหลอกลวงในลักษณะ “แชร์ลูกโซ่ลงทุน” อ้างตนเป็นตัวแทนบริษัทรีสอร์ตชื่อดัง “Genting Malaysia” หลอกให้เหยื่อชาวเกาหลีใต้ร่วมลงทุน โดยสัญญาผลตอบแทนสูงล่อใจ จนมีผู้เสียหายจำนวนมาก ความเสียหายรวมกว่า 20,160,531,817 วอน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 500 ล้านบาท
คอนโดหรูย่านพระราม 3 – แหล่งหลอกเหยื่อเต็มรูปแบบ
จากการตรวจค้น คอนโดมิเนียมทั้ง 2 แห่งถูกดัดแปลงเป็น “ออฟฟิศหลอกลวง” มีห้องเล็กกว่า 20 ห้อง ติดตั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และอุปกรณ์สื่อสารครบครัน
เจ้าหน้าที่พบ
- เครื่องโทรศัพท์ VoIP และคอมพิวเตอร์กว่า 50 เครื่อง
- โทรศัพท์มือถือ 35 เครื่อง
- เอกสาร “บทสคริปต์หลอกเหยื่อ”
- บัตรประจำตัวอัยการเกาหลีปลอม และเอกสารทางราชการปลอมจำนวนมาก
ผู้ต้องหาใช้เทคนิค VoIP โทรหลอกเหยื่อในเกาหลีใต้ โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรืออัยการ ข่มขู่เหยื่อว่ามีคดีความ และหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีที่ควบคุมโดยแก๊ง รวมถึงปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารชักชวนกู้เงินเพื่อหลอกเอาค่าดำเนินการ
รวบแล้ว 17 ราย – พบหมายจับสากล INTERPOL
จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้บางรายมีหมายจับ INTERPOL Red Notice ติดตัว ข้อหาหลอกลวงประชาชนและฉ้อโกงข้ามชาติ โดยทั้งหมดหลบหนีการจับกุมจากประเทศกัมพูชาและมาเลเซีย ก่อนเข้ามากบดานในไทย
เจ้าหน้าที่จึงจับกุมทั้งหมดและส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง และ สน.ลุมพินี ดำเนินคดี พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบขยายผลต่อไป
ตำรวจไทย–เกาหลีใต้ เดินหน้าปราบอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ต.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผบก.ปอท. เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทยและเกาหลีใต้ เพื่อสกัดการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติ
ขณะเดียวกัน ตำรวจไทยได้ประสานสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้เพื่อส่งข้อมูลเพิ่มเติมถึงเหยื่อในประเทศ พร้อมเตรียมขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ
ตำรวจเตือนประชาชน – อย่าหลงเชื่อ “ลงทุนผลตอบแทนสูง”
CIB เตือนประชาชนว่า หากมีการติดต่อเชิญชวนให้ลงทุนในธุรกิจใดที่ให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติ ขอให้ตรวจสอบก่อนโอนเงิน เพราะอาจเป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ และหากพบเห็นบุคคลต่างชาติที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
#CIB #บกปอท #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ตำรวจไทยร่วมเกาหลีใต้ #ทลายแก๊งต่างชาติ #แชร์ลูกโซ่ #ข่าวอาชญากรรม #ข่าวใหญ่วันนี้















