“ชมรมตามรอยเจ้าตาก” ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมศิลปากร เอาผิดพระอดีตนักการเมือง หลังฝ่าฝืนคำสั่งศาล กลับมาบุกรุกโบราณสถาน “วัดดอยข่อยเขาแก้ว” จ.ตาก อีกครั้ง ทั้งสร้างกุฏิ ป้ายโฆษณา และประกาศจัดงานอุปสมบทหมู่โดยไม่ได้รับอนุญาต ด้านกรมศิลป์ยัน! จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดหลังสงกรานต์ปี 2569
วันที่ 9 ธันวาคม 2568 ที่กรมศิลปากร
นายสุชาติ กนกรัตน์มณี ประธานชมรมตามรอยเจ้าตาก พร้อมด้วย นายอรรณพ บุญสว่าง ทนายความ, นายปเรตร์ อรรถวิภัชน์ ที่ปรึกษาชมรมฯ และ นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านศาสนา เข้ายื่นหนังสือถึง อธิบดีกรมศิลปากร เพื่อร้องเรียนและคัดค้านการบุกรุกโบราณสถาน “วัดดอยข่อยเขาแก้ว (วัดร้าง)” จ.ตาก โดยมี นายวสันต์ เทพสุริยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย เป็นผู้รับเรื่อง
นายสุชาติ เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่ปี 2552 – 2554 นายสมบูรณ์ ปันคำ พร้อมพวกได้บุกรุกพื้นที่โบราณสถานวัดดอยข่อยเขาแก้ว ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และได้ถูกดำเนินคดีโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เมื่อปี 2555 โดยศาลจังหวัดตากพิพากษาจำคุก 6 เดือน 15 วัน ปรับ 2,100 บาท และรอลงอาญา 2 ปี
อย่างไรก็ตาม หลังพ้นคดี นายสมบูรณ์ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ และกลับมาครอบครองพื้นที่โบราณสถานอีกครั้ง ทั้งที่เจ้าคณะตำบลได้ออกคำสั่งให้ เพิกถอนการแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลวัดร้างตั้งแต่ 4 พ.ย. 2565 แล้ว แต่ยังพบว่า พระสมบูรณ์ ยังคงพักอาศัยและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างหลายอย่างในพื้นที่ ทั้งกุฏิ ห้องน้ำ ป้ายโฆษณา และอาคารอื่น ๆ รวมถึงใช้ชื่อว่า “วัดสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากร และยังจัดกิจกรรมทางศาสนา เรี่ยไรเงิน และประกาศจัดงานอุปสมบทหมู่ในวันที่ 17 เมษายน 2569
นายสุชาติ ย้ำว่า พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่าย บุกรุกธรณีสงฆ์ (วัดร้าง) และสร้างสิ่งปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก พศ. และกรมศิลปากร ซึ่งสร้างความเสียหายต่อโบราณสถานอันเป็นสมบัติของชาติ
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า จากการประชุมคณะกรรมการดูแลและพัฒนาโบราณสถานเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 มีมติให้ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 14 รายการ ภายใน 3 เดือน ตามข้อเสนอของสำนักศิลปากรที่ 6 แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ จึงต้องเข้ายื่นเรื่องเพื่อเร่งรัดและขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
กรมศิลป์ยัน! เตรียมรื้อถอนหลังสงกรานต์ 2569
ด้าน นายวสันต์ เทพสุริยานนท์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับเจ้าคณะจังหวัดตากเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และได้ข้อสรุปว่าจะมีการ เคลื่อนย้ายและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกจากพื้นที่โบราณสถานหลังช่วงสงกรานต์ปี 2569 พร้อมย้ำว่า การดำเนินการใด ๆ ภายในพื้นที่โบราณสถาน ต้องได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรก่อนทุกครั้ง
ชมรมฯ ลั่น! หากยังบุกรุกต่อ เตรียมร้องถึงเจ้าคณะปกครอง ขณะเดียวกัน นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านศาสนา กล่าวเสริมว่า หากหลังจากนี้ พระสมบูรณ์ ยังฝ่าฝืนและเข้าบุกรุกพื้นที่โบราณสถานอีก จะมีการยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองในระดับสูง เพื่อดำเนินการทางสงฆ์ต่อไป
