วันศุกร์, ธันวาคม 12, 2025
หน้าแรกข่าวประชาสัมพันธ์กสม. จี้ “ธนารักษ์ภูเก็ต” กันพื้นที่พิธีนอนหาดของชาวเล หวั่นละเมิดสิทธิวัฒนธรรมดั้งเดิม–ชี้รัฐ–เอกชนต้องเคารพสิทธิมนุษยชน

Related Posts

กสม. จี้ “ธนารักษ์ภูเก็ต” กันพื้นที่พิธีนอนหาดของชาวเล หวั่นละเมิดสิทธิวัฒนธรรมดั้งเดิม–ชี้รัฐ–เอกชนต้องเคารพสิทธิมนุษยชน


กสม. มีมติให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตกันพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์บริเวณ “หาดทรายแก้ว” ที่ชาวเลอันดามันใช้ประกอบพิธีนอนหาดประจำปี ออกจากเขตที่ให้เอกชนเช่าสร้างโรงแรม เหตุเป็นพื้นที่สำคัญทางจิตวิญญาณที่มีมาเกิน 300 ปี ชี้การปล่อยให้เอกชนใช้พื้นที่ต่อเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและไม่สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ


วันที่ 12 ธันวาคม 2568
นาย จุมพล ขุนอ่อน รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงว่า กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายชาวเลอันดามัน ได้แก่ กลุ่มมอแกน มอแกลน และอุรักลาโว้ย เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ระบุว่า สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต และ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อนุญาตให้บริษัทเอกชนรายหนึ่งเช่าที่ราชพัสดุในพื้นที่ ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นบริเวณที่ชาวเลใช้ประกอบ “พิธีนอนหาด” มานานกว่า 300 ปี

พิธีนอนหาดจัดขึ้นทุกเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ใช้เวลาประมาณ 3–5 วัน เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล เพื่อบูชาบรรพบุรุษ เสี่ยงทายโชคชะตา และเชื่อมความสามัคคีระหว่างชุมชนในจังหวัดภูเก็ตและพังงา โดยพื้นที่นี้ถือเป็นจิตวิญญาณร่วมของชาวเลทั้งสองจังหวัด

กสม. ชี้ ธนารักษ์ภูเก็ตละเมิดสิทธิวัฒนธรรม – เอกชนเสี่ยงทำลายวิถีชีวิตชาวเล

ผลการตรวจสอบของ กสม. ระบุว่า ที่ดินที่ให้เช่ามีบางส่วนติดกับเขตอุทยานสิรินาถและครอบคลุมพื้นที่ประกอบพิธีนอนหาด โดยแม้สำนักงานธนารักษ์จะทราบถึงความสำคัญของพื้นที่ดังกล่าว แต่กลับไม่กันพื้นที่ไว้ให้ชาวเลใช้ตามเดิม การอนุญาตให้เอกชนเช่าที่ต่อไปจึงกระทบต่อ สิทธิทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และพันธกรณีระหว่างประเทศ (ICESCR)

กสม. เห็นว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อ “หลักการธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ” (UNGPs) ที่กำหนดให้รัฐและภาคธุรกิจมีหน้าที่คุ้มครองไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน และต้องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม โดยบริษัทเอกชนผู้เช่าที่มีพฤติกรรมกีดกันชาวเลไม่ให้เข้าประกอบพิธี ก็มีความเสี่ยงละเมิดสิทธิมนุษยชนเช่นกัน

ห่วงผลกระทบสิ่งแวดล้อม–พื้นที่วางไข่เต่าทะเล

กสม. ยังพบว่า พื้นที่ที่ตั้งโรงแรมอยู่ใกล้เขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ซึ่งเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต การก่อสร้างอาจก่อผลกระทบทางระบบนิเวศและรบกวนการวางไข่ของเต่าทะเล อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวเคยอยู่ในแผนที่จะประกาศเพิ่มเติมเป็นเขตอุทยานเมื่อปี 2533 แต่ถูกกันออกไว้ชั่วคราวเนื่องจากมีผู้ถือครองเอกสารสิทธิ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นที่ราชการ กสม. เสนอให้พิจารณาฟื้นแนวคิดประกาศเพิ่มเติมตามข้อตกลงเดิม

กสม. ออกข้อเสนอแนะหลายข้อ ปกป้องสิทธิมนุษยชนและวัฒนธรรม

กสม. มีมติเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 เสนอแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้

  1. สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต ต้องกันพื้นที่ประกอบพิธีนอนหาดออกจากเขตที่ให้เอกชนเช่าเพื่อสร้างโรงแรม
  2. กระทรวงวัฒนธรรม และ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ควรประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็น “พื้นที่คุ้มครองทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล” ตามมติ ครม. วันที่ 2 มิถุนายน 2553 เรื่องการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล
  3. บริษัทเอกชนผู้เช่า ต้องจัดรับฟังความคิดเห็นจากชาวเลในจังหวัดภูเก็ตและพังงา รวมถึงองค์กรสิทธิมนุษยชน เพื่อนำผลไปปรับปรุงมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้ครอบคลุมประเด็นพิธีนอนหาด
  4. กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ต้องส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐและเอกชนปฏิบัติตามหลัก UNGPs และทำการประเมินผลกระทบสิทธิมนุษยชน (Human Rights Due Diligence) อย่างรอบด้าน

นายจุมพล กล่าวย้ำว่า การคุ้มครองสิทธิของชาวเลไม่ใช่เพียงการอนุรักษ์วัฒนธรรม แต่เป็นการรักษามรดกจิตวิญญาณและอัตลักษณ์ของชาติ พร้อมเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันรักษาพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไว้ให้ลูกหลานชาวเลรุ่นต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts