EXCLUSIVE: แกะรอย “โอกาสใหม่” เปิดหน้า 3 แคนดิเดตนายกฯ หมากเกมลึก “รัฐราชการ” ผสม “ขุนพลภูธร”

“…สัญญาณลับผ่าทางตัน… “ตัวจริง” ที่วงการคาดไม่ถึง ท่ามกลางวิกฤตศรัทธาและความขัดแย้งทางการเมืองที่ไร้ทางออก ข้อมูลล่าสุดที่ทีมข่าว #สืบจากข่าว เจาะลึกได้จาก “แหล่งข่าวระดับสูง” เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2568 กำลังส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วกระดานอำนาจ เมื่อการขยับตัวของ “พรรคโอกาสใหม่” หมายเลข 44 ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่สีสันทางการเมือง แต่ถูกวงในประเมินตรงกันว่า นี่คือการ “เปิดหน้าชก” ด้วยขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ข้อมูลเชิงลึกระบุว่า รายชื่อ 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ถูกวางหมากมาอย่างประณีตนั้น เปรียบเสมือน “ดรีมทีม” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อ “ผ่าทางตันประเทศไทย” อย่างแท้จริง เป็นส่วนผสมระดับมาสเตอร์พีซที่หาได้ยาก ที่ดึงเอาความเฉียบคมของ “กลไกรัฐราชการ” มาผสานเข้ากับ “ความเข้าใจปัญหาปากท้อง” และ “วิสัยทัศน์เมกะโปรเจกต์” ได้อย่างลงตัว จนบรรดากูรูการเมืองต่างฟันธงว่า นี่ไม่ใช่พรรคที่ตั้งมาเพื่อต่อรองอำนาจ แต่คือความพร้อมระดับสูงสุดที่สามารถ “รับไม้ต่อบริหารประเทศ” ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอนับหนึ่งใหม่
เปิดหน้า 3 ขุนพล… ใครเป็นใครในเกมนี้?
แหล่งข่าวระบุชัดเจนว่า รายชื่อที่ถูกวางไว้บนกระดาน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการวาง Positioning ทางการตลาดการเมือง ที่ครอบคลุมทุกมิติอำนาจ ดังนี้:

1. แม่ทัพใหญ่สายบริหาร: “จตุพร บุรุษพัฒน์”
การที่ชื่อของ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ใน ครม.แพทองธาร 1/2) และอดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ถูกดันขึ้นเป็น แคนดิเดตเบอร์ 1 ส่งสัญญาณแรงถึง “ดุลอำนาจสายข้าราชการ”
- นัยยะ: นี่คือตัวแทนของกลุ่ม “เทคโนแครต” ที่เติบโตมาจากระบบราชการ รู้ลึกทุกกลไกงบประมาณและทรัพยากร การขยับจากข้าราชการประจำสู่เบอร์หนึ่งของพรรค สะท้อนว่ากลุ่มอำนาจเก่าอาจกำลังมองหา “ยานพาหนะใหม่” ที่ไว้ใจได้ มากกว่านักเลือกตั้งอาชีพเพียงอย่างเดียว

2. โซ่ข้อกลางมวลชน: “นพ.ทศพร เสรีรักษ์”
ชื่อของ “หมอทศพร” แคนดิเดตเบอร์ 2 คือจิ๊กซอว์ที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างระหว่าง “ชนชั้นนำ” กับ “คนรุ่นใหม่และรากหญ้า”
- นัยยะ: ประวัติการทำงานที่เคยอยู่ทั้งพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย และภาพจำในการช่วยเหลือ สส.ก้าวไกล ที่หมดสติกลางสภา ทำให้หมอทศพรมีภาพลักษณ์ “ประนีประนอม” และ “เข้าถึงได้” เป็นไพ่ใบสำคัญที่จะดึงคะแนนเสียงจากฝั่งประชาธิปไตยเดิม และลดแรงเสียดทานหากต้องมีการจับขั้วรัฐบาลข้ามสายพันธุ์

3. มือทำงานโครงสร้างพื้นฐาน: “ประภัสร์ จงสงวน”
อดีตผู้ว่าการ รฟท. และ รฟม. มาเป็นแคนดิเดตเบอร์ 3 ตอกย้ำจุดยืนเรื่อง “เมกะโปรเจกต์”
- นัยยะ: การเมืองไทยหนีไม่พ้นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ การมีนายประภัสร์อยู่ในทีม บ่งบอกว่าพรรคนี้พร้อมที่จะเข้าคุมกระทรวงเกรดเอ (คมนาคม) และขับเคลื่อนนโยบายที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (และทุนสนับสนุนพรรค)
บทวิเคราะห์: “โอกาสใหม่” หรือ “เหล้าเก่าในขวดใหม่”?
จากการประเมินของกูรูการเมืองหลายสำนักที่ #สืบจากข่าว ได้พูดคุยด้วย พบข้อสังเกตที่น่าสนใจ 2 ประการ:
- คอนเนกชัน “ศรัณย์วุฒิ” และ “ประภัสร์”
การดึงตัวตึงอย่าง นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ (อดีต สส.อุตรดิตถ์ ฝีปากกล้า) และ นายประภัสร์ (สายงานคมนาคม) มาร่วมทัพ แสดงให้เห็นว่าพรรคนี้ไม่ได้เน้นแค่ภาพลักษณ์สวยหรู แต่เน้น “บ้านใหญ่” และ “คะแนนจัดตั้ง” ในพื้นที่จริง ผสมผสานกับการเดินเกมระดับบนของนายจตุพร
การประกาศ “ไม่ล่วงเกินสถาบัน”
จุดยืนนี้ถูกขีดเส้นใต้ชัดเจนเพื่อดึงกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน แต่ก็ไม่อยากไปสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านสุดโต่ง ถือเป็นการวางตำแหน่งเป็น “ทางเลือกที่ 3” ที่ปลอดภัยสำหรับชนชั้นนำ
สิ่งที่สังคมต้องจับตา
ภายใต้ฉากหน้าที่ดูเหมือนการรวมตัวของ “คนมีของ” เพื่อแก้ปัญหาประเทศ คำถามที่ดังขึ้นในวงกาแฟทางการเมืองคือ…
“คำถามที่วงการการเมืองต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ ไม่ใช่การถามหาว่า ‘ใครคือเจ้าของพรรค’ แต่ต้องมองว่า ‘อะไร’ ที่ดึงดูดระดับมันสมองของชาติเหล่านี้มารวมตัวกันได้?
ปรากฏการณ์การผนึกกำลังระหว่าง ‘มือบริหารระดับปลัด’ และ ‘นักการเมืองกระดูกเหล็ก’ ครั้งนี้ สะท้อนนัยยะสำคัญว่า นี่คือการตกผลึกร่วมกันของกลุ่มคนทำงานตัวจริง ที่เล็งเห็นแล้วว่าลำพังการเมืองแบบเดิมไม่อาจพาประเทศรอดพ้นวิกฤตได้ การที่ระดับขุนพลยอมลงมาเล่นเองเช่นนี้ ย่อมการันตีได้ถึง ‘เสถียรภาพ’ และ ‘ความปึกแผ่น’ ที่ไม่ต้องพึ่งพาใครเป็นพิเศษ นอกจากความพร้อมและประสบการณ์ของพวกเขาทั้งนั้น”
- ทำไมต้องเป็นตอนนี้? การเปิดตัวพรรคในช่วงที่รัฐบาลผสมกำลังเผชิญสารพัดปัญหา เป็นการเตรียมพร้อมรับมือ “อุบัติเหตุทางการเมือง” ที่อาจเกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนดหรือไม่?
นี่คือเกมอำนาจที่ “คนวงใน” รู้ดีว่า… ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ.
โดย กองบรรณาธิการข่าวสืบสวน #สืบจากข่าว



