“….ประเทศจีนใหม่นาม”สาธารณรัฐประชาชนจีน” ได้รับการสถาปนาขึ้นมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม คศ.1949 และเมื่อจีนเปิดประเทศเชื่อมตัวเองเข้ากับระบบโลกและปฏิรูปตัวเอง พวกเขาก็จะไม่รีรอที่จะทุ่มเทสรรพกำลังสร้างปาฏิหารย์ให้เห็นเป็นประจักษ์ เพียง 47 ปีหลังจากเปิดประเทศและปฏิรูป อาศัยความมานะบากบั่นและอัจฉริยภาพของตนเอง มิใช่จากการรุกรานยึดครองหรือปล้นสะดมภ์เช่นกลุ่มประเทศมหาอำนาจตะวันตก ที่กระทำกันเป็นประเพณีนับตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคม ปัจจุบันนี้จีนก็สามารถสร้างสิ่งใหม่ๆขึ้นได้มากกว่าทุกประเทศรวมกัน และกำลังจะสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่คนทั่วไปคิดไม่ถึงขึ้นมาอีกจำนวนมาก จีนเตรียมพร้อมส่งคนลงดวงจันทร์และสร้างฐานวิจัยบนดวงจันทร์อย่างแน่นอนแล้วภายในปีคศ.2028 ตระเตรียมแผนสร้างเครื่องเหวี่ยงความเร็วสูงบนดวงจันทร์ สำหรับลำเลียงธาตุฮีเลียม 3 กลับสู่โลก โดยไม่ต้องใช้ยานอวกาศขนส่ง ซึ่งธาตุฮีเลียม 3 เป็นเชื้อเพลิงชั้นเยี่ยมเพียงหนึ่งเดียวของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นหรือ”ดวงอาทิตย์เทียม” มีมากบนผิวดวงจันทร์ ขณะที่หาแทบไม่ได้เลยบนผิวโลก อีกทั้งจีนกำลังจะเริ่มทดลองผลิตกระแสไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์เทียมในปี 2030 นี้ จังหวะเวลาของโครงการทั้งสองนี้จึงตรงกันพอดี มนุษย์เราก็จะหลุดพ้นจากความขาดแคลนพลังงานทันที ตามปณิธานสูงสุดของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่ว่า ชาวโลกทั้งผองจงมาร่วมกันสร้างประชาคมโลกที่มวลมนุษยชาติมีอนาคตร่วมกัน…”

โตตามธรรมชาติ自然壮大
เส้นทางเติบโตของจีนยุคใหม่ เป็นไปตามเหตุปัจจัยหรือธรรมชาติของความเป็นจีน อาศัยความมานะบากบั่นและอัจฉริยภาพของตนเอง มิใช่จากการรุกรานยึดครองหรือปล้นสะดมภ์เช่นกลุ่มประเทศมหาอำนาจตะวันตก ที่กระทำกันเป็นประเพณีนับตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคม
เส้นทางดังกล่าวของจีน ไม่เพียงได้พาจีนมาถึงจุดสูงยิ่งของจีนเท่านั้น หากแต่ยังจะพาทั้งโลกก้าวตามไปด้วย ซึ่งต่างจากยุคตะวันตกนำโลก ที่โลกส่วนใหญ่ถูกทิ้งไว้ให้เผชิญชะตากรรมซ้ำซาก ในวังวนของความล้าหลังยากจน
จุดเริ่มต้นของจีนยุคใหม่เริ่มต้นจากจุดต่ำสุดของอารยธรรมจีน ในสภาวะบ้านแตกสาแหรกขาดที่เป็นผลจากความตกต่ำต่อเนื่องตลอดห้วงศตวรรษที่ 19-20 ในสมัยราชวงศ์ชิง ในห้วงเดียวกันกับการทะยานขึ้นของอารยธรรมอุตสาหกรรมตะวันตกที่แผ่คลุมไปทั่วทุกทวีป
แผ่นดินจีนถูกรุกฆาตด้วยอำนาจที่เหนือกว่าจากทุกประเทศที่ผันตัวเองขึ้นสู่ระดับอุตสาหกรรมทุนนิยม ทั้งที่เป็นฝรั่งและญี่ปุ่น พวกเขาเหล่านั้นแย่งชิงกันสถาปนาอำนาจเหนือแผ่นดินจีนเป็นหย่อมๆ
ทว่าด้วยจิตใจไม่ยอมศิโรราบของคนจีนที่ตื่นรู้ และพร้อมพลีชีพเสียสละ ได้จัดตั้งกันเข้าและลุกขึ้นสู้ในรูปแบบต่างๆอย่างไม่ขาดสาย ระลอกแล้วระลอกเล่า แม้จะล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน หัวหลุดจากบ่านับหมื่นนับแสน แต่ก็ยืนหยัดไม่ยอมแพ้ ถ่ายทอดจิตวิญญาณของความเป็นผู้กล้า จากคนรุ่นก่อนสู่คนรุ่นหลัง จนกระทั่งถึงยุคปฏิวัติด้วยกำลังอาวุธที่นำโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน จึงบรรลุสู่ความสำเร็จ ได้รับชัยชนะและปิดฉากหน้าประวัติศาสตร์แห่งความอดสูของประชาชาติจีนได้อย่างถาวร
พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ก่อตั้งขึ้นในปีคศ.1921 ได้กลายเป็นคำตอบสุดท้ายของการกอบกู้ชะตากรรมประชาชาติจีน โดยเฉพาะตั้งแต่ปีคศ.1934 เมื่อทั่วทั้งพรรคยอมรับความคิดชี้นำของเหมาเจ๋อตง ดำเนินสงครามประชาชน ต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นจนได้รับชัยชนะเป็นเบื้องต้น
ภายหลังการโจมตีกองทัพกั๋วหมินตั่งของเจียงไคเช็กจนแตกพ่ายไปในหลายๆยุทธภูมิ และเจียงไคเช็กที่มีสหรัฐสนับสนุนอยู่เบื้องหลังพาพรรคพวกหนีไปตั้งหลักที่เกาะไต้หวันแล้ว กองทัพปลดแอกประชาชนจีนก็กวาดล้างอิทธพลมหาอำนาจต่างชาติพ้นไปจากแผ่นดินจีนในชั่วพริบตา
ในที่สุด ประเทศจีนใหม่นาม”สาธารณรัฐประชาชนจีน” ก็ได้รับการสถาปนาขึ้นมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม คศ.1949
การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม คือฐานอันมั่นคงของการขับเคลื่อนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะนับตั้งแต่ปีคศ.1978 เมื่อจีนเปิดประเทศเชื่อมตัวเองเข้ากับระบบโลกและปฏิรูปตัวเองในท่ามกลางการแข่งขันกับชาติตะวันตกที่ยังเห็นว่าจีนล้าหลังกว่า ไม่กลัวว่าจีนจะไล่ทัน
แต่ประวัติศาสตร์ก็ได้ค่อยๆให้คำตอบแก่กลุ่มประเทศตะวันตกและชาวโลกโดยรวมว่า เมื่อจีนมีโอกาส พวกเขาก็จะไม่รีรอที่จะทุ่มเทสรรพกำลังสร้างปาฏิหารย์ให้เห็นเป็นประจักษ์
ดังนั้น เพียง 47 ปีหลังจากเปิดประเทศและปฏิรูป ปัจจุบันนี้จีนก็สามารถสร้างสิ่งใหม่ๆขึ้นได้มากกว่าทุกประเทศรวมกัน และกำลังจะสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่คนทั่วไปคิดไม่ถึงขึ้นมาอีกจำนวนมาก และนับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ
เช่นขณะที่จีนเตรียมพร้อมส่งคนลงดวงจันทร์และสร้างฐานวิจัยบนดวงจันทร์อย่างแน่นอนแล้วภายในปีคศ.2028 ก็มีการตระเตรียมแผนสร้างเครื่องเหวี่ยงความเร็วสูงบนดวงจันทร์ สำหรับลำเลียงธาตุฮีเลียม 3 กลับสู่โลก โดยไม่ต้องใช้ยานอวกาศขนส่ง
ธาตุฮีเลียม 3 เป็นเชื้อเพลิงชั้นเยี่ยมเพียงหนึ่งเดียวของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นหรือ”ดวงอาทิตย์เทียม” มีมากบนผิวดวงจันทร์ ขณะที่หาแทบไม่ได้เลยบนผิวโลก
อีกทั้งจีนกำลังจะเริ่มทดลองผลิตกระแสไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์เทียมในปี 2030 นี้ จังหวะเวลาของโครงการทั้งสองนี้จึงตรงกันพอดี
เมื่อใดที่พวกเขาทำได้สำเร็จ มนุษย์เราก็จะหลุดพ้นจากความขาดแคลนพลังงานทันที
ผู้เขียนเชื่อเช่นนั้น เพราะระบอบสังคมนิยมจีนที่ถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง สามารถแสดงบทบาทเป็นกลไกเชื่อมโยงผลประโยชน์ชาวโลกเข้าด้วยกันได้เเป็นอย่างดี
ตามปณิธานสูงสุดของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่ว่า ชาวโลกทั้งผองจงมาร่วมกันสร้างประชาคมโลกที่มวลมนุษยชาติมีอนาคตร่วมกัน!
ไขคำจีน
自然 จื้อหยาน ธรรมชาติ



