จีนขึ้นชั้น “ผู้นำเทคโนโลยีของโลก” เพราะมีไฟฟ้า “กำหนดสถานภาพ” ซึ่งจีนมี “มากที่สุดในโลก”

“…..ปัจจุบันนี้ จีนสามารถพัฒนาการผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งที่เป็นการผลิตจากพลังงานฟอสซิลเช่นถ่านหิน น้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติ และจากพลังงานสะอาดเช่นพลังน้ำ ลม แสงอาทิตย์ ตลอดจนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเตาปฏิกรณ์ปรมาณูที่ปัจจุบันมีความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าจาก”ดวงอาทิตเทียม” ที่มีอยู่หลายตัว ซึ่งเป็นเตาปฏิกรณ์ปรมาณูแบบนิวเคลียร์ฟิวชั่นให้ได้เป็นเบื้องต้นภายในปี2030 ซึ่งหากทำได้สำเร็จ จีนก็จะเป็นประเทศแรกในการนำพาชาวโลกแก้ไขปัญหาพลังงานของมวลมนุษย์โดยรวมได้อย่างถาวร ซึ่งจีนได้กลายเป็นผู้มีกระแสไฟฟ้าใช้มากที่สุดของโลกไปแล้ว ปริมาณการผลิตและใช้ไฟฟ้าของจีนทุกวันนี้มีมากกว่าของสหรัฐอเมริกากับชาติตะวันตกรวมกันเสียอีก หมายความว่าการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำของโลกเช่นการผลิตชิปเอไอ การสร้างศูนย์ข้อมูลเอไอ และควอนตัมคอมพิวเตอร์ ที่ต้องการใช้กระแสไฟฟ้าในปริมาณมหาศาล จึงมีแต่จีนเท่านั้นที่ทำได้เต็มไม้เต็มมือที่สุด ดังนั้น ภาพที่เราสามารถมองเห็นได้ไม่ยากต่อจากนี้ก็ตือ ตะวันตกจะอ่อนยวบ จีนจะแกร่งกร้าวในทุกเรื่องที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย…”

จับทางจีน正视中国

สันติ ตั้งรพีพากร陈俊泰

ไฟฟ้า ตัวกำหนดสถานภาพความเป็นประเทศนำหน้าแห่งยุค 电力，决定当今大国地位

จีนวันนี้ มีสิ่งที่เราต้องรู้มากมาย เพื่ออะไรหรือ?

มิใช่เพื่อเชียร์หรืออวย แต่เพื่อเราจะได้รู้และเข้าใจทิศทางที่สังคมโลกจะมุ่งไป คนไทยจะทำตัวได้ถูกต้อง!

ทั้งนี้เพราะ จีนวันนี้ ไม่ว่าจะพิจารณาในมิติใด พวกเขาได้พัฒนาตัวเองจนก้าวขึ้นมายืนอยู่หัวแถวของมวลมนุษยชาติแล้ว

นี่มิใช่เป็นความปราถนาของใครโดยเฉพาะ แม้กระทั่งคนจีนเองก็มิเคยคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาได้ดังปัจจุบันที่เป็นอยู่

แต่เป็นไปตามกฎเกณฑ์การขับเคลื่อนของกระบวนพัฒนาแห่งมวลมนุษย์ ที่บอกว่าใครก็ตามที่เข้าถึงกฎดังกล่าวและปฏิบัติตัวได้อย่างสอดคล้องกับกฎเกณฑ์นี้ ก็จะไปได้ดีกว่าใครอื่น

ชาติตะวันตกที่ครองความเป็นผู้กำหนดทิศทางโลกมาร่วม500ปี เนื่องเพราะตนเองได้หลุดพ้นจากกรอบดำมืดของอวิชายุคกลาง และพัฒนาตนเองขึ้นบนฐานปัญญาใหม่ที่เป็นวิทยาศาสตร์ กระทั่งนำสังคมโลกเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้คาดหวังว่าจะมีอารยธรรมอื่นใดมาเบียดแซงแทนที่ตนได้

ด้วยเชื่อว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่พัฒนาตนเองขึ้นมาเป็นประเทศที่เจริญแล้ว มีแต่ต้องตั้งอยู่บนฐานอารยธรรมตะวันตก ภายใต้คำขวัญ”เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ”

ระบอบเศรษฐกิจต้องเป็นแบบตลาดเสรี การปกครองต้องเป็นแบบประชาธิปไตย โดยทั้งหมดนั้นดำเนินไปด้วยแรงขับเคลื่อนของทุน กลุ่มทุนกำหนด

แนวคิดชี้นำดังกล่าวได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ถึงขั้นที่หากใครไม่ปฏิบัติตาม ก็จะถูกบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ปรับตัวเอง

ก่อนหน้าที่จีนจะผงาดขึ้นมา แสดงตนเป็นตัวอย่างของความสำเร็จในอีกรูปแบบหนึ่งที่ถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง หลุดจากการยึดมั่นในเงินทุน และกลุ่มทุน ทำการขับเคลื่อนประเทศด้วยแผนพัฒนาที่กำหนดเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับความเจริญก้าวหน้าของสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวม

ซึ่งทั้งหมดนั้น ประเทศจีนจะรับเอาปัจจัยที่เป็นคุณทุกรูปแบบเข้าสู่ระบบการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจสังคม

ตามหลักปรัชญาชี้นำที่ว่า “ปลดปล่อยความคิด หาสัจจะจากความเป็นจริง” ด้านหนึ่งไม่หลงไหลได้ปลึ้มกับผลประโยชน์เฉพาะด้านเฉพาะทาง เช่นการลงทุนจากต่างประเทศ การส่งออก เป็นต้น แต่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ตนเองในระดับฐานราก เช่นระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งจะประกอบกันเข้าเป็นตลาดการบริโภคขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมจีนไปได้อย่างยั่งยืน

ด้วยแนวทางดังกล่าว ทำให้จีนเกิดธุรกิจอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลกจำนวนนับหมื่นนับแสน แต่ก็ดำเนินไปสู่จุดมุ่งหมายยุทธศาสตร์เดียวกัน มิได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำหนดทิศทางของประเทศจีนเหนือพรรคคอมมิวนิสต์จีนแต่ประการใด

อีกนัยหนึ่ง ทุนจีนจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ไม่มีสถานะทางการเมืองเช่นที่เป็นอยู่ในกลุ่มประเทศทุนนิยม

ทุนเป็นเครื่องมือพัฒนาประเทศชาติ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในสังคมจีน!

ดังนั้น ปัจจุบันนี้ จีนจึงสามารถพัฒนาการผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งที่เป็นการผลิตจากพลังงานฟอสซิลเช่นถ่านหิน น้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติ และจากพลังงานสะอาดเช่นพลังน้ำ ลม แสงอาทิตย์ เป็นต้น ตลอดจนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเตาปฏิกรณ์ปรมาณูที่ปัจจุบันมีความปลอดภัยสูงสุด เป็นต้น ด้วยการระดมทุนมหาศาลจากตลาดเงินทุนทุกรูปแบบ

นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าจาก”ดวงอาทิตเทียม” ที่มีอยู่หลายตัว ซึ่งเป็นเตาปฏิกรณ์ปรมาณูแบบนิวเคลียร์ฟิวชั่นให้ได้เป็นเบื้องต้นภายในปี2030

ซึ่งหากทำได้สำเร็จ จีนก็จะเป็นประเทศแรกในการนำพาชาวโลกแก้ไขปัญหาพลังงานของมวลมนุษย์โดยรวมได้อย่างถาวร!

จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันจีนได้กลายเป็นผู้มีกระแสไฟฟ้าใช้มากที่สุดของโลก ปริมาณการผลิตและใช้ไฟฟ้าของจีนทุกวันนี้มีมากกว่าของสหรัฐอเมริกากับชาติตะวันตกรวมกันเสียอีก!

หมายความว่าการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำของโลกเช่นการผลิตชิปเอไอ การสร้างศูนย์ข้อมูลเอไอ และควอนตัมคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ที่ต้องการใช้กระแสไฟฟ้าในปริมาณมหาศาล จึงมีแต่จีนเท่านั้นที่ทำได้เต็มไม้เต็มมือที่สุด!

ดังนั้น ภาพที่เราสามารถมองเห็นได้ไม่ยากต่อจากนี้ก็ตือ ตะวันตกจะอ่อนยวบ จีนจะแกร่งกร้าวในทุกเรื่องที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย!

เช่นที่กำลังจัดการกับญี่ปุ่นที่แสดงท่าทีจะใช้อาวุธเข้าแทรกแซงการรวมไต้หวันของจีน !

ซึ่งจีนพร้อมจะเด็ดหัว!

ไขคำจีน

电力 เตี้ยนลี่ ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า