กรณีวางยาล่วงละเมิดทางเพศ หลานอดีต รมต.เข้าพบตำรวจโชคชัย ลั่นถูกแบล็กเมล์ ยันบริสุทธิ์ใจ มีหลักฐานชัด วอนอย่าดึงตระกูลมาเกี่ยว ตร.เตรียมแจ้งข้อหาส่งศาลทันที
จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พานักแสดงสาวอายุ 21 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีถูกนักธุรกิจเจ้าของบริษัทใหญ่ หลานชายอดีตรัฐมนตรี วางยาล่วงละเมิดทางเพศในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สน.โชคชัย เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 65 แต่คดีไม่คืบหน้า ทำให้ต่อมามีการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ รวมถึงมีการสั่งเด้ง รอง ผกก.สอบสวน สน.โชคชัย ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังถูกผู้เสียหายกล่าวหาว่าวันแจ้งความ เป็นผู้บอกว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่สามารถดำเนินคดีได้ ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 65 ที่ สน.โชคชัย นายอภิดิศร์ อินทุลักษณ์ หรือ เอ็ม ผู้ถูกกล่าวคดีดังกล่าว เข้าพบ ร.ต.ท.หญิง ชิดชนก แฟงทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย ตามหมายเรียก โดยก่อนเข้าพบได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้มีหลักฐานชัดเจนว่า เรื่องทั้งหมดเป็นการแบล็กเมล์ ขณะนี้ข่าวที่ออกไป ทำวงศ์ตระกูลเสียหายมาก ตาของตนเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจริง เมื่อ 40-50 ปีแล้ว และเสียชีวิตไป 10 ปีแล้ว การนำมาเกี่ยวข้องนั้นรู้สึกเสียใจมาก เพราะคดีมีผู้เกี่ยวข้องเพียงตนคนเดียว ไม่อยากให้นำครอบครัวมาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้อยากบอกว่า ตนบริสุทธิ์ ที่มาวันนี้ก็เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และตามที่ผู้กล่าวหาบอกว่าตนมีเส้นสายตำรวจ ไม่จริง เพราะไม่รู้จักใครแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนเพิ่งกลับจากไปเที่ยวที่หัวหิน รู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเดินทางมาวันนี้พร้อมเปิดตัว
จากนั้นนายอภิดิศร์ ได้ถอดหน้ากากอนามัย พร้อมกล่าวอีกว่า หมายเรียกส่งไปที่บ้านตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ระบุให้เข้าให้ปากคำวันนี้ (29 ส.ค.) การที่ผู้กล่าวหาไปออกรายการกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม นั้น ต้องขอขอบคุณนายษิทรา ที่ให้ความร่วมมือ เข้าใจว่าเป็นทนายของประชาชน เพราะหากตนเป็นทนาย แล้วได้ยินเรื่องราวผู้เสียหายก็คงรับไม่ได้ถ้ามีผู้ชายไปข่มขืนผู้หญิง เพราะต้องเป็นสุภาพบุรุษ ทั้งนี้หลังเข้าพบพนักงานสอบสวนตนจะชี้แจงอีกครั้ง เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อรูปคดี แต่ยืนยันว่าบริสุทธิ์ใจ ไม่ผิด มีหลักฐานชัดเจน ซึ่งนายษิทรา น่าจะอยู่ฝ่ายผิด เพราะไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร แต่จะไปโทษไม่ได้ ซึ่งหลักฐานที่นำมานั้น มีความรัดกุม สามารถชี้แจงได้ว่าไม่ผิดตามที่ถูกกล่าวหา
นายอภิดิศร์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไปกับผู้กล่าวหาจริง เพราะผู้กล่าวหาติดต่อมาหาบอกว่าทะเลาะกับพี่สาว อยู่ที่สยามสแควร์คนเดียว กระทั่งช่วงกลางคืนบอกตนว่าไม่อยากกลับห้อง ให้แนะนำโรงแรมให้ จึงแนะนำโรงแรมแถวสุขุมวิทไป แต่อีกฝ่ายบอกว่าราคาแพงเกินไป ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นแชตชัดเจน อย่างไรก็ตามตนไม่ได้ไปส่งเพียงอย่างเดียว แต่ไปที่โรงแรมโดยนำเหล้าโซจูไปด้วย และไม่ได้เป็นการไปพูดคุยเรื่องงาน แต่เรื่องที่เกิดในห้องนั้น ตนมีหลักฐานทั้งหมด ว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริง ส่วนตัวรู้จักกับผู้กล่าวหา เพราะเคยติดต่อไปให้รีวิวสินค้า โดยรู้จักกันก่อนหน้าวันเกิดเหตุไม่ถึงเดือน ไม่เคยคบหากันแต่อย่างใด โดยตนรู้สึกเสียใจกับคำพูดของนายษิทรา แต่เข้าใจว่าต้องการปกป้องผู้หญิง เพราะเชื่อว่าถูกรังแก ส่วนเรื่องเล่นการเมืองนั้น ผู้ที่โทรฯ ไปหาผู้กล่าวหาเป็นผู้ใหญ่ที่ตนนับถือ ซึ่งโทรฯ ไปโดยที่ยังไม่ได้พูดคุยกับตน คลิปเสียงที่ปรากฏออกมาเป็นคลิปที่ถูกตัดมา สิ่งที่กังวลคือชื่อของตนออกไปในสื่อสังคมออนไลน์เยอะ และบางคนอาจไม่เข้าใจ ไม่ได้ฟังจากตน ขอให้ผู้สื่อข่าวเป็นกระบอกเสียงให้ เพราะตนเป็นชายธรรมดาคนหนึ่งที่ถูกรังแก
พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย เปิดเผยว่า หลังจาก นายอภิดิศร์ เข้าพบพนักงานสอบสวนและมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว วันนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวส่งศาลอาญารัชดาขอฝากขังทันที เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง โดยจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะรับฝากขังหรืออนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เพราะผู้ต้องหาเข้ามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเรา 1 ข้อหา แต่หากภายหลังผลตรวจร่างกายพบยาหรือสารเสพติด อาจมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
ทั้งนี้มีรายงานอีกว่า กรณีผู้เสียหายอ้างว่ามีหลักฐานแชตบางอย่างหายไปนั้น เอกสารไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ที่พนักงานสอบสวนครบ และได้นำหลักฐานทั้งหมดไปขออนุมัติศาลออกหมายจับตั้งแต่ครั้งแรก แต่ที่ผู้เสียหายเข้าใจผิด เนื่องจากตอนนำหลักฐานคืนไป ผู้เสียหายนำกลับคืนไปไม่ครบ ส่วนที่ศาลไม่อนุมัติออกหมายจับ ไม่ใช่เพราะเอกสารหลักฐานไม่ครบ แต่เป็นเพราะศาลเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ตำรวจสามารถดำเนินการเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาได้เลย
ขอบคุณที่มาคลิป : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว