บก.ปคม. จับ ’ถุงแป้ง’ แม่เล้าลวงเด็กหญิง 14 ปี ค้ากามคารีสอร์ทดำเนินคดีค้ามนุษย์
กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา, พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม., พ.ต.อ.จิรเดช พระสว่าง, พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม., พ.ต.ท.ภคพล สุชล, พ.ต.ท.ปรัชญา บุญยืน รอง ผกก.5 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ปคม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม.ร่วมกันจับกุมตัว นายวัสยศ หรือ แป้ง (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน 1.ค้ามนุษย์ (ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี) โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี 2.เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลอายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม 3.เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม 4.บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด 5.รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่น หรือจากผู้ค้าประเวณี และจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้สืบทราบว่า รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี มีการลักลอบค้าประเวณี ซึ่งมีผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 14 ปี ถูกหลอกลวงให้มาขายบริการทางเพศอยู่ภายในรีสอร์ทดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนทราบว่ามี บุคคลชื่อ “ถุงแป้งหรือเค” ทำหน้าที่เป็นแม่เล้าอยู่ภายในรีสอร์ทดังกล่าว โดยจะเปิดห้องภายในรีสอร์ทฯ พักอาศัยอยู่กับเด็กหญิง เมื่อมีลูกค้าติดต่อมาใช้บริการ ก็จะพาตัวไปส่งให้กับลูกค้า และรับเงินค่าซื้อบริการ เป็นเงินจำนวน 1,500 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วางแผนเข้าทำการช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยให้สายลับติดต่อขอซื้อบริการเด็กหญิงจากผู้ต้องหา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้ต้องหาเดินออกมาจากห้องหมายเลข 7 ออกมารอสายลับ เมื่อสายลับมาถึงได้จ่ายเงินให้กับผู้ต้องหา จำนวน 1,500 บาท ผู้ต้องหาจึงบอกกับสายลับว่า มีเด็กหญิง อายุ 14 ปี รออยู่ภายในห้องหมายเลข 7 เมื่อสายลับเข้าไปภายในห้อง พบเด็กหญิง อายุ 14 ปี จริง จึงได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา
นอกจากนี้ยังพบหลักฐานเป็นเงินที่ใช้ในการล่อซื้อบริการและโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อกับสายลับที่กระเป๋าถือของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยหน่วยงานโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวด์ เรลโรด (O.U.R.) จึงเข้าทำการช่วยเหลือเด็กหญิงผู้เสียหายจาการค้ามนุษย์ ส่วนผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นสอบถามผู้ต้องหาผู้ต้องหาให้กทรรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าได้รู้จักผู้เสียหายที่ได้หนีออกจากบ้านมา จึงได้ชักชวนผู้เสียหายมาขายบริการ โดยจะหักเงินจากค่าบริการเป็นค่านายหน้า 700 บาท และแบ่งให้ผู้เสียหาย 800 บาท โดยทำลักษณะดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี และจะมีลูกค้ามาซื้อบริการวันละประมาณ 10 ราย