รวบคนขับ “นายกช้าง ระยอง” เอี่ยวทีมฆ่า “ทนายมานพ” ยังมีผู้ร่วมขบวนการสำคัญอีกรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนสนิทของนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จ.ระยอง ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการแกะรอยขยายผลไปถึงตัวผู้จ้างวาน
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนบุกยิง นายมานพ เสถียรเขตต์ ทนายความชื่อดัง อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง พรรคไทยรักษาชาติ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภายในปั๊มน้ำมัน ช.อำนวยทรัพย์ปิโตรเลียม เลขที่ 111 หมู่ 4 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2565 ต่อมาตำรวจภูธรภาค 2 สนธิกำลังร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) บุกจับกุม นายปิติ นิชรัตน์ อายุ 54 ปี มือปืน และ นายนิติพนธ์ หรือ แบน ฉ่ำชื่น อายุ 57 ปี คนชี้เป้าและพามือปืนหลบหนี ได้ในพื้นที่ กทม. และ จ.แพร่
ความคืบหน้าคดีล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ก.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ บูรพา 491 จับกุม นายเสถียร บุญกล้า พ่อบ้านและคนขับรถนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.ระยอง หลังพบว่ามีเอี่ยวในคดีคนร้ายยิงนายมานพ เสถียรเขตต์ ทนายความ และอดีตผู้สมัครส.ส.เขต 3 จ.ระยอง ซึ่งตำรวจจับกุมมือปืนและคนชี้เป้าได้สำเร็จไปแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่านายเสถียรมีส่วนร่วมในการสังหารโหดดังกล่าว จึงเข้าคุมตัวได้ ขณะอยู่ใน อ.เมือง ก่อนพาตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดที่กองปราบปราม
อย่างไรก็ตามในชั้นจับกุม นายเสถียร ให้การปฏิเสธอ้างว่า ตนเองเป็นเพียงลูกจ้างอัตราจ้างของ อบจ.ระยอง แต่ปัจจุบัน นายปิยะ หรือ นายกช้าง ได้ให้มาช่วยขับรถให้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับคดีดังกล่าวแต่อย่างใด
แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากหลังเกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของนายเสถียร ได้พบหลักฐานชิ้นสำคัญ เป็นอาวุธปืนกระบอกเดียวกับที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งมีการซื้อมาก่อนหน้าตะถึงวันเกิดเหตุประมาณ 10 วัน จึงนำไปสู่การออกหมายจับและตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
นอกจากนี้มีรายงานว่า ยังมีผู้ร่วมขบวนการสำคัญอีกรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนสนิทของนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จ.ระยอง ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการแกะรอยขยายผลไปถึงตัวผู้จ้างวาน เนื่องจากบุคคลดังกล่าวเป็นผู้นำเงินจำนวน 80,000 บาท ไปส่งมอบให้กับกลุ่มมือปืน และเป็นผู้คอยประสานงานระหว่างตัวผู้จ้างวานกับกลุ่มมือปืนที่รับงานสังหารนายมานพ หรือ ทนายมานพ ผู้ตาย อีกทั้งจากการตรวจสอบประวัติยังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือ สนิทสนมกับซุ้มมือปืนต่างๆ ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี อีกด้วย
