วันนี้ (13 ธ.ค.) นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมนายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รองปลัดเมืองพัทยา และคณะทำงาน ลงพื้นที่บริเวณถนนเทพประสิทธิ์เพื่อตรวจสอบความหน้าการก่อสร้าง ซึ่งเป็นดราม่ากันมาอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่เมืองพัทยาได้ว่าจ้างผู้รับเหมามาทำการขุดเจาะฟุตปาธและผิวจราจรเพื่อวางระบบท่อระบายน้ำ แต่เป็นที่แคลงใจกับสังคมว่าหลังดำเนินการเสร็จในฝั่งขวาจากถนนสุขุมวิทถึงแยกแกรนด์ พบว่าฝาตะแกรงท่อระบายน้ำจำนวนกว่า 100 จุด มีระดับฝาท่อสูงกว่าแนวถนนถึง 7 ซม.ก่อนจะมีการเทพื้น ค.ส.ล. จึงเป็นประเด็นให้ผู้คนส่วนใหญ่มองถึงเหตุผลความจำเป็นในการจัดทำ อีกทั้งยังสร้างความลำบากให้กับประชาชนในใช้เป็นพื้นที่จอดรถ และอันตรายแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งพบว่าที่ผ่านมามีผู้เสียหายจำนวนหลายรายแล้ว โดยการนี้มีตัวแทนจาก บ.พรหมโยธาการระยอง 1993 ในฐานะผู้รับจ้างมารอพบเพื่อบรรยายสรุปและดำเนินการแก้ไขปัญหาในขั้นตอนแรก
นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่าจากปัญหาการร้องเรียนที่เกิดขึ้นกรณีนี้เมืองพัทยาจึงได้สั่งการให้ผู้รับเหมาทำการเทยางแอสฟัลท์ติกส์เพื่อปรับปรุงการจราจรในฝั่งขาออก โดยเริ่มต้นจากถนนเทพประสิทธิ์ห่างจากสัญญาณไฟแดงแยกสุขุมวิทยาวไปจนถึงแยกเทพพระยาในระยะทางกว่า 3 กม.ซึ่งจะเว้นทางไว้เฉพาะช่วงติดไฟแดงตัดสุขุมวิท 100 เมตร บริเวณแยกเทพพระยา 100เมตร และทางตัดเข้าซอยกอไผ่อีก ทั้งนี้จะมีการราดยางแอสฟัลท์ติกส์เริ่มในระยะ 300 เมตรแรกระดับผิวจราจรในช่วง 2 เลนติดเส้นกลางถนนระยะ 4 ซม. และการเทเสริมอีก 3 ซม.รวมเป็น 7 ซม.พร้อมดำเนินการในฝั่งที่ติดกับแนวฟุตปาธซึ่งต้องรอประมาณ 3 วัน ขณะที่เทยางแล้ว บดอัดแล้วก็จะปล่อยให้มีการเซ๊ทตัวประมาณ 2-3 ชม.จากนั้นก็จะเปิดการจราจรให้เป็นปกติ ก่อนจะทำขยายการปรับปรุงไปตลอดในระยะ 1,200 เมตรแรก ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงปีใหม่
สำหรับพื้นที่ๆ เหลือจะดำเนินการอย่างเร่งรัดและให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่วางไว้ทั้งการปูยางแอสฟัลติกส์ และแนวฟุตปาธ ที่คงจะแล้วเส็จในช่วงหลังปีใหม่ แต่จะเร่งรัดให้เป็นไปตามแผนเพื่อลดความเดือดร้อนและการใช้ถนน ที่สั่งการว่าให้เร่งดำเนินการเทยางทั้ง 6 เลนประมาณช่วงเดือนกุภาพันธ์ 2566..
