นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารและหลักฐานกล้องวงจรปิดจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ไปยื่นต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับพลตำรวจตรีปิยะพันธ์ ปิงเมือง อดีตประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมถึงนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. กับพวก รวม 9 คน กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริตคอรัปชั่น
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ ปปง. กว่า 10 นาย ถึงพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องของตนเอง ตั้งแต่สมัยที่พลตำรวจตรีปิยะพันธ์เข้ามาดำรงตำแหน่ง ซึ่งการที่พลตำรวจตรีปิยะพันธ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานบอร์ด ปปง. โดยมิชอบด้วยกฎหมาย จากการยัดไส้เอาพวกพ้องของตนเองเข้ามาเป็นกรรมการ จำนวน 13 คน ซึ่งไม่ครบองค์คณะกรรมการแต่งตั้ง ทำให้เป็นการแต่งตั้งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่ง ก็ใช้ห้องสำนักงานชั้น 3 ของ อาคาร ปปง. เป็นสถานที่รับเคลียร์คดีให้กับกลุ่มทุนจีนสีเทา และพนันออนไลน์ต่างๆ มีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ และมีพริตตี้มาเอนเตอร์เทน โดยทุกวันก็จะมีกลุ่มทุนจีนเข้ามา รวมถึงนายตู้ห่าว และนายอั้ม ภูมิพัฒน์ สามีของ “แยม ธมลพรรณ์” อดีตดารา ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ทำหน้าที่เป็นคนกลางรับเคลียร์ให้กับกลุ่มพนันออนไลน์และยังสนิทสนมกับพลตำรวจตรีปิยะพันธ์เป็นอย่างดี
นอกจากนี้พลตำรวจตรีปิยะพันธ์ยังเคยถอดการอายัดเงินให้กับแก๊งพนันออนไลน์รวมกว่า 200 ล้านบาทโดยมิชอบ มีการเข้าไปแทรกแซงเปลี่ยนคณะทำงานคดีพนันออนไลน์ในท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ตลอดจนช่วยเหลือพวกพ้องของตนเองจากการถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีต่างๆ
ทั้งนี้นายอัจฉริยะยืนยันตนเองมีพยานหลักฐานชัดเจน เป็นคลิปวงจรปิดบริเวณชั้น 3 ห้องที่มีการรับเคลียร์คดีกัน ซึ่งได้รับมาจากเจ้าหน้าที่ ปปง. ที่ได้รับความเดือดร้อน เห็นการทุจริตและรู้ข้อมูลการซุกซ่อนเส้นทางการเงินทรัพย์สินต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็พร้อมจะเป็นพยานในคดี แต่ยังไม่ขอเปิดเผยคลิปหลักฐานในขณะนี้ แต่จะรอให้พนักงานสอบสวนเรียกสอบพยานก่อน และยืนยันว่าไม่กลัวว่าจะถูกฟ้องกลับด้วย
