กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ปวิช ข่าทิพย์พาที, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 3 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม
ร่วมกันจับกุม น.ส.รัตนาภรณ์ หรือติ๊ก (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 294/2565 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์” และจากการตรวจสอบยังพบว่า มีหมายจับศาลจังหวัดสิงห์บุรี ที่ 3/2566 ลงวันที่ 3 ม.ค.2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันยักยอกทรัพย์” อีกจำนวน 1 หมายจับโดยจับกุมได้ที่ริมถนนในพื้นที่ ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี
เมื่อเดือน มิ.ย.65 นายอิทธิพล (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายซึ่งประกอบอาชีพค้าขายมีปัญหาทางการเงินเนื่องจากสถานการณ์โควิดต้องการเงินไปหมุนเวียนการค้าขาย และพบว่ามีเฟซบุ๊กชื่อ “รับจำนำรถ ทั่วประเทศ” โพสต์รับจำนำรถยนต์ ผู้เสียหายจึงได้ทักเฟซบุ๊กดังกล่าวไป จากนั้นมีแอดมินทักกลับมา โดยแจ้งว่าหากต้องการจำนำรถยนต์ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีค่าจอด จำนวน 2,000 บาท และ ค่านายหน้า 3,000 บาท หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อยผู้เสียหายจึงนำรถยนต์ไปส่งมอบให้กับผู้รับจำนำโดยมี น.ส.รัตนาภรณ์ หรือเจ๊ติ๊กฯ ผู้ต้องหา มารับรถยนต์ของผู้สียหายไป หลังจากนั้นเดือน สิงหาคม 2565 ผู้เสียหายต้องการไถ่ถอนรถยนต์คืน เมื่อติดต่อไปเฟซบุ๊กดังกล่าวแจ้งว่าให้ติดต่อกับ น.ส.รัตนาภรณ์ หรือเจ๊ติ๊กฯ เมื่อติดต่อไปน.ส.รัตนาภรณ์ หรือเจ๊ติ๊กฯ กลับถูกบ่ายเบี่ยง กระทั่งไม่สามารถติดต่อได้ จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมและติดตามรถคืนมา ต่อมาพนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับ น.ส.รัตนาภรณ์ หรือเจ้ติ๊กฯ และทราบว่ายังมีกลุ่มผู้เสียหายประมาณ 30 ราย ที่นำรถยนต์ไปจำนำกับทางเฟซบุ๊ก “รับจำนำรถ ทั่วประเทศ” สร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าของรถทั่วประเทศ มีผู้เสียหายบางรายพบว่าขณะที่นำรถไปจำนำช่วงเช้า ช่วงบ่ายก็มีการประกาศขายรถตนเองในเฟซบุ๊กขายรถหลุดจำนำทันที
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอยู่ที่บริเวณ ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้น ให้การภาคเสธว่าตนเองไม่ได้เจตนาโกง แต่เป็นเพียงนายหน้าไปรับรถส่งต่อให้นายทุนเท่านั้น หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อนายทุนที่รับจำนำได้ ส่วนการโพสต์ขายรถหลุดจำนำนั้น ตนเองไม่ทราบเรื่อง
ตำรวจสอบสวนกลาง ขอเตือนประชาชนที่เดือดร้อนหากต้องการเงินควรกู้เงินสถาบันการเงินที่เชื่อเถือได้ การนำรถยนต์หรือทรัพย์สินไปจำนำกับบุคคลที่ไม่รู้จักอาจทำให้ถูกยักยอกหรือนำไปขายต่อโดยทันที เหมือนผู้เสียหายในคดี