วันที่ 24 ม.ค. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเรือนจำในพื้นที่ กทม. สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี และฉะเชิงเทรา จำนวน 19 เรือนจำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กว่า 80 คน นำผู้ต้องขังกว่า 600 คน เข้าร่วมภารกิจดังกล่าว จนได้รับการชื่นชม
กรมราชทัณฑ์ จึงได้มีนโยบาย “7 ห้าม 3 ให้ สร้างความปลอดภัย ห่วงใยการทำงาน” ให้เป็นนโยบายด้านการทำงานนอกเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ ทุกประเภทการทำงาน จึงได้กำหนดข้อควรปฏิบัติสำหรับประชาชน ในการทำงานสาธารณะและงานนอกเรือนจำของผู้ต้องขัง ด้วยหลัก 7 ห้าม 3 ให้
“7 อย่างต้องห้าม” ได้แก่ 1.ห้ามให้สุราหรือของมึนเมา 2.ห้ามให้ยาเสพติด 3.ห้ามให้เงินตรา 4.ห้ามให้ใช้เครื่องมือสื่อสาร 5.ห้ามให้อาวุธหรือสิ่งของที่สามารถก่อเหตุร้าย 6.ห้ามใช้ยานพาหนะ และ 7.ห้ามพูดคุยในลักษณะแจ้งข่าวร้ายหรือสร้างความปั่นป่วนในการทำงาน
และ “3 ให้” คือ 1.ให้กำลังใจ 2.ให้โอกาส และ 3.ให้การยอมรับ
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมราชทัณฑ์ได้นำผู้ต้องขัง ออกทำงานสาธารณะ และงานนอกเรือนจำเพื่อประโยชน์ของสังคม โดยปฏิบัติตามมาตรฐานการควบคุม และตามมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานที่เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน นั้น เป็นการให้โอกาส สร้างความเชื่อมั่นทั้งผู้ต้องขัง และสังคม รวมถึงการให้การยอมรับ และเป็นการเตรียมความพร้อมในการคืนคนดีสู่สังคมต่อไป พร้อมนี้สามารถติดตามการทำงานของผู้ต้องขังตั้งแต่เช้าถึงเย็น ในการออกทำงานภายนอกเรือนจำ ในรูปแบบวิดิทัศน์ ได้ทางช่องทางเพจ Facebook ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์