ส่งผู้ต้องหาคนไทย 16 คน ตามหมายจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ในกัมพูชา รวม 22 คน มาดำเนินคดีในไทย
สระแก้ว – ตำรวจรับตัวผู้ต้องหาคนไทย ที่มีหมายจับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทางด่านถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
เพิ่ม 16 คน โดยส่งตัวมาก่อนหน้านี้ 6 คน รวม 22 คน หลังรอง ผบ.ตร.บินด่วนประสานทางการกัมพูชา เข้าจับกุมตัวได้ในกรุงพนมเปญ 1 จุด และเมืองสีหนุวิลล์อีก 2 จุด เพื่อดำเนินคดีในข้อหา เป็นอั้งยี่ซ่องโจร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
วันที่ 12 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร) เดินทางมารับผู้ต้องหาคนไทย ที่มีหมายจับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทางด่านถาวรบ้านคลองลึก จำนวน 16 คน เป็นชาย 14 คน,หญิง 2 คน เพิ่มเติมเป็นครั้งที่สอง เพื่อดำเนินคดีในข้อหา เป็นอั้งยี่ซ่องโจร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยผู้ต้องหาคนไทยทั้งหมด 16 คนนี้ มีหมายจับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประกอบด้วย หมายจับ สภ.แหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จำนวน 14 คน และหมายจับเพื่อนำส่ง สภ.เมืองอุดรธานี ถ.นเรศวร ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อีก 2 คน ภายหลังได้ดำเนินการจรวจสอบเอกสาร ทำการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว ได้นำคนไทย ส่งตัวไปยังท้องที่ต่าง ๆ ตามหมายจับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาได้ส่งตัวผู้ต้องหาคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามหายจับของ สภ.ตาพระยา จำนวน 6 คน มาดำเนินคดีในประเทศไทย รวมผู้ต้องหาในคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 22 คน ภายหลังช่วงเช้าของวันที่ 11 ก.พ.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา
นำโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร ) หรือ PCT ร่วมกับคณะของ นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม./หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 1, พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 /หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.สอบสวน บก.สส.สตม. พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อพบกับ พล.อ.เซา ซกคา รอง ผบ.สส. และ ผบ.สห. (Gendarmerrie) ผู้แทนฝ่ายรัฐบาลกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ฝังตัวอยู่ในประเทศกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม สำหรับชุดปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยและกัมพูชา ได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 3 จุดพร้อมกัน ในกรุงพนมเปญ 1 จุด เป็นอาคาร Y.N Hotel กรุงพนมเปญ ชั้น 4-8 ใช้เป็นสถานที่พักอาศัยของผู้ต้องหา โดยใช้ชั้น 9 เป็นสถานที่ในการชักชวนผู้เสียหายหลอกลงทุน ส่วนที่เมืองพระสีหนุวิลล์อีก 2 จุด คืออาคารตรงข้าม Sokha Vegas Caniso ในเมืองพระสีหนุ เป็นอาคาร 4 ชั้น ชั้นบนสุดใช้เป็นสถานที่พักอาศัย และทํางานในการโทรมาหลอกลวงผู้เสียหายที่ประเทศไทย และอาคาร Chinatown GM Office ในเมืองพระสีหนุ ซึ่งเป็นที่พักและ ที่ทํางานในการชักชวนผู้เสียหายหลอกลงทุน ซึ่งทั้งหมดมีชาวจีนเป็นหัวหน้าควบคุมดูแล ทั้งหลอกลงทุนเงินดิจิตอล , แอบอ้างเป็นตำรวจและ DSI, อ้างตัวเป็นเครือของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และ ปตท. หรือกลุ่ม PTTEP จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 21 คน จากจำนวนหมายจับที่ทางการไทยมอบให้กับกัมพูชา 71 หมาย ส่วนที่หลบหนีทางการกัมพูชาอยู่ระหว่างติดตามจับกุม รวมความเสียหายรวมกันประมาณ 1,000 ล้านบาทไทย…นายยุทธนาพึ่งน้อยผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว