ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม., พ.ต.ท.เกียรติก้อง ทองคำ รอง ผกก.2 บก.ปคม., พ.ต.ท.พระเนียง พรหมมี รอง ผกก.2 บก.ปคม., พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สว.กก.2 บก.ปคม., พ.ต.ท.พัฒน์ชพล มีนวลสิน สว.กก.2 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุม
1.นายเสกสรรค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 305/2566 ลงวันที่ 27 มกราคม 2566 จับกุมได้เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ห้องพักภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในย่านรังสิต-คลองหนึ่ง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
2. นายวิทยา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 304/2566 ลงวันที่ 27 มกราคม 2566 จับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยรัชดาภิเษก 36 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, พรากผู้เยาว์อายุมากกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย, เพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด, ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองของผู้เสียหายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รายหนึ่งว่า บุตรของตนเองมีพฤติกรรมแปลกไปจากเดิม จึงได้สอบถามความจริงพบว่าบุตรของตนเองถูกเพื่อนของรุ่นพี่ชักชวนไปมีเพศสัมพันธ์และถูกอัดคลิปวีดีโอ โดยเพื่อนของรุ่นพี่ได้นำคลิปไปโพสต์ขายในช่องทางกลุ่มไลน์ลับ และทาง Onlyfans ผู้เสียหายจึงเกิดความเครียด กลัวว่าจะมีผลกระทบกับตนเอง ผู้ปกครองของผู้เสียหายจึงได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังจากได้รับแจ้ง ชุดสืบสวนจึงได้ดำเนินการสืบสวนจนทราบว่า มีผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์รายหนึ่งมีพฤติกรรมโฆษณา ชักชวน ให้บุคคลทั่วไปสมัครเข้ากลุ่มลับเพื่อดูภาพ และคลิปวิดีโออนาจาร รวมถึงบนเว็บไซต์ Onlyfans เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้สมัครเข้ากลุ่มไลน์ลับดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าชื่อบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงิน คือ นายเสกสรรค์ฯ ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันที่ปรากฎในคลิป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับบุคคลดังกล่าว โดยสามารถจับกุมนายเสกสรรค์ฯ ได้ที่ห้องพักภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในย่านรังสิต-คลองหนึ่ง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
ทั้งนี้จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า มีบุคคลที่มีพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าวอีก คือ นายวิทยาฯ โดยมีการชักชวนผู้เสียหายมามีเพศสัมพันธ์ในช่วงต้นปี 2565 และถ่ายคลิปไปลงในกลุ่มลับรวมถึงบนเว็บไซต์ Onlyfans เพื่อหาผลประโยชน์ในลักษณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับในความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ เช่นเดียวกัน โดยสามารถจับกุมนายวิทยาฯ ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยรัชดาภิเษก 36 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยในส่วนของนายเสกสรรค์ฯ ให้การว่า เปิดกลุ่มไลน์ลับโดยคิดค่าสมัครเข้ากลุ่มคนละ 200 บาท โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีสมาชิกกว่า 200 ราย มีเงินหมุนเวียนกว่านับแสนบาทซึ่งรวมถึงเงินที่ได้จากเว็บไซต์ Onlyfans โดยนายเสกสรรฯ ยังให้การเพิ่มเติมว่าจะเลือกทักหาเด็กหนุ่มที่เป็นเน็ตไอดอล มีชื่อเสียงในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อหวังให้มีผู้สนใจสมัครมาเป็นสมาชิกในกลุ่มที่ตนเป็นแอดมิน
ส่วนนายวิทยาฯ ให้การว่า คิดค่าสมัครเข้ากลุ่มไลน์ลับคนละ 500 บาท จากการตรวจสอบพบว่ามีสมาชิกกว่า 100 ราย โดยจะใช้วิธีชักชวนวัยรุ่นชายที่เป็นกลุ่ม LGBTQ ตามทวิตเตอร์ หากสนใจและตกลงกันได้ก็จะนัดมามีเพศสัมพันธ์ และแอบบันทึกภาพเคลื่อนไหวมาแสวงหาผลประโยชน์ในกลุ่มที่ตนเองเป็นแอดมิน รวมถึงนายวิทยาฯ ยังรับว่าตนเองยังเสนอค้าประเวณีทางเพศให้กับผู้อื่นอีกด้วย
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีความห่วงใย เด็กวัยรุ่นทั้งชายและหญิง ในเรื่องในเรื่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีคนร้ายพยายามทำให้เด็กเชื่อว่าตกหลุมรัก อยากคบหาเป็นแฟน ขอภาพลับ นัดพบ ละเมิดทางเพศ และถ่ายรูปข่มขู่แบล็กเมล์ ซึ่งเข้าข่ายพฤติกรรมการเข้าหาเด็กเพื่อละเมิดทางเพศ (Child Grooming) ซึ่งเด็กจำนวนมากต้องทนทุกข์กับความทรงจำเลวร้ายที่รบกวนจิตใจไปตลอดชีวิต ส่งผลต่อการเรียน การทำงาน และความสัมพันธ์ บางคนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า พยายามฆ่าตัวตาย ซึ่งข้อเท็จจริงที่ทราบจากตัวเด็กสอดคล้องไปทางเดียวกันคือ ก่อนถูกละเมิดทางเพศจะมีพฤติกรรมสร้างความเป็นมิตร เข้ามาตีสนิทให้เด็กตายใจ ก่อนเสมอ แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ละเมิดทางเพศเด็ก ซึ่งผู้ปกครองและทุกฝ่ายต้องช่วยกันระมัดระวัง หมั่นตรวจสอบการใช้สื่อออนไลน์ของบุตรหลานของท่าน ว่ามีความผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่
สำหรับวิธีการแก้ปัญหาของผู้ที่เสพติดสื่อลามกอนาจารเด็ก ควรปรึกษาแพทย์ เข้ากลุ่มบำบัด หรือเข้ารับการสะกดจิตบำบัด (Hypnotherapy) ร่วมกับการรักษาด้วยวิธีอื่น รวมทั้งหากมีพฤติกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในสังคม เช่น ต้องการโชว์ของลับในที่สาธารณะ จำเป็นต้องปรึกษาคุณหมอเพื่อรักษาอาการเหล่านี้
และสุดท้าย สำหรับผู้ที่มีสื่อลามกเด็กไว้ในครอบครอง ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการส่งต่อสื่อลามกเด็ก หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน จะต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และผู้ที่คิดจะหลอกลวงเด็กหรือเยาวชน มาบันทึกภาพวีดีโอแล้วนำมาเผยแพร่เพื่อหารายได้ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ และเป็นความผิดที่มีอัตราโทษจำคุกกว่า 10 ปี ต่อการกระทำผิดหนึ่งครั้ง และมีอายุความดำเนินคดี 20 ปี
หากประชาชนมีเบาะแส หรือได้รับความเดือนร้อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ โทร สายด่วน 1191 หรือเพจเฟซบุ๊ก กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์