วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าใหม่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบโครงกระดูกมนุษย์กระจายอยู่ทั่วบริเวณ ป่ากระถินเพทา ด้านหลังบ้านพักครูโรงเรียนท่าใหม่พูลสวัสดิ์ ใกล้เคียงกับวัดกลางทุ่งท่าระแนะ เขตเทศบาลอำเภอท่าใหม่
หลังรับแจ้งเหตุ พันตำรวจเอก ชนะวงศ์ มีวิริยกุล ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรท่าใหม่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยกู้ภัยสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี เดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันที เบื้องต้นพบหัวกระโหลก โครงกระดูกอยู่ในสภาพแห้ง ชิ้นส่วนกระจายกันอยู่ประมาณ 10 เมตร บริเวณใต้ต้นไม้ พบสายเคเบิ้ลสีดำผูกอยู่บนกิ่งไม้ ..
เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมเก็บกระดูกชิ้นส่วนทั้งหมดมาเรียงกันบนผ้าขาว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทำการเก็บชิ้นส่วนพยานหลักฐานบริเวณดังกล่าวทั้งหมดโดยให้ข้อมูลว่าศพที่พบดังกล่าวน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่าหนึ่งปี ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อยืดลักษณะคล้ายเสื้อบอลแขนยาวสีตัวสีน้ำเงิน แขนสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขายาว ลักษณะเปื่อยยุ่ย รองเท้าแตะสีดำ จากวัตถุพยานที่พบเจ้าหน้าที่คาดการณ์เบื้องต้นว่าผู้เสียชีวิตอาจจะมาผูกคอตนเองเสียชีวิตอยู่บริเวณดังกล่าวแต่ไม่มีใครมาพบจึงทำให้ร่างย่อยสลายไปตามธรรมชาติจนเหลือเพียงแต่กระดูก
โดยขณะนี้ได้ส่งชิ้นส่วนกระดูกทั้งหมดไปทำการตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุและตรวจสอบดีเอ็นเอว่าเป็นใครมาจากไหน
สอบถามพยานที่พบเจอศพเป็นคนแรกชื่อนาง อุษา ทองเสื่อน อายุ 58 ปี (ป้าแต๋ว) เล่าเหตุการณ์ว่าขณะนั้นตนเองมารับจ้างทางป่าอยู่บริเวณดังกล่าวจึงพบว่ามีวัตถุวังยางโผล่ขึ้นมาจากดินเล็กน้อยลักษณะคล้ายกับหัวกะโหลกมนุษย์ จึงให้นายจ้างเดินไปดูก็พบว่าเป็นโครงกระดูกของมนุษย์จริงจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ
ทางด้านนางสาววันวิสาข์ ยศศิริ เป็นคุณครูสาว สอนวิชาสังคม ของโรงเรียนท่าใหม่พูนสวัสดิ์ ผู้พักอาศัยในบ้านพักครูดังกล่าว เล่าเหตุการณ์ว่าตนเองอยู่บริเวณดังกล่าวมาประมาณสี่ปีแล้วก็ไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติไม่มีกลิ่นเหม็นและก็ไม่พบมีบุคคลภายนอกเดินเข้ามาบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งพบว่ามีผู้มาแจ้งว่ามีคนพบโครงกระดูกดังกล่าวจึงทราบเรื่อง ตนเองรู้สึกตกใจว่าไม่น่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลังบ้านพักครูของตนเอง