(ตอน) หมาเห่าใบตองแห้ง
คำคม…ที่สะท้อน ออกจากปาก เป็นแนวเปรียบเปรยเย้ยหยัน ให้ฝ่ายตรงข้าม เกิดสำนึกรู้สึกเจ็บลึกๆ ขึ้นมา เป็นอาวุธสำคัญในการใช้ภาษาเชือดเฉือนกัน
ไม่ถึงกับต้องลงไม้ลงมือ หรือใช้อาวุธห้ำหั่น เอาเป็นเอาตาย…ก็ทำให้คู่ต่อสู้แพ้ทาง หุบปากลงได้
เป็นหนทางของการใช้ภาษาเป็นอาวุธ ที่นักการเมืองยุคเก่าเขาใช้ปากเบิกทางในสนามรบ ได้ผลเป็นชัยชนะ ที่ไม่จำเป็นต้องยกพวกมาแสดงอาการ…นิสัยนักเลง อันธพาล ข้างถนน
สมัยท่านอาจารย์ หม่อมฯ คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกฯ นายทหารใหญ่สั่งเณรไปพังรั้วบ้านท่าน
ท่านก็ไม่ไปขออำนาจใดมาคุ้มครอง…แค่ยกป้ายไปแปะไว้หน้าประตูรั้ว ข้อความสั้นๆ
“กูไม่กลัวมึง”
พวกนั้นก็ยกทัพกลับไปหมด!!
เมื่อนักการเมือง ฝ่ายตรงข้าม…โจมตีท่านทางสื่อ นักข่าวไปขอความเห็นจากท่าน…
“ไม่จำเป็นต้องไปตอบโต้เขาหรอก…เราทำตัวเป็นภูเขาทอง หมาเหยี่ยวรดบ้าง ไม่เป็นไร”
นักการเมืองประเภท “หมาเห่าใบตองแห้ง” ก็หุบปาก ไม่กล้าแหกปากด่าท่านอีก
วิธีใช้สงครามปาก หรือใช้ภาษาพื้นบ้านข่มใส่กัน…ในทางการเมืองยุคเก่า ก็เป็นอีกรูปแบบ ที่ประชาชนชื่นชอบ
ปัจจุบันมีนักการเมืองออกมาใช้ปากเปิดศึก…ก็พอมีให้เห็นบ้าง แต่ไม่ได้อารมณ์
มันต้องแสดงแบบประกอบด้วย…อย่างที่เห็นๆ กันอยู่นั่นแหละครับ!
โดยเฉพาะนักแสดง ที่มีพวกสื่อเป็นแนวร่วม และมีกำลังรบสายโซเชียล คอยบันทึกการถ่ายทำ พร้อมที่จะนำไปโปรโมต ให้ฝ่ายสนับสนุน หรือฝ่ายต่อต้าน มีอารมณ์ร่วม
แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ตกเป็นเครื่องมือใคร…ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เป็นแค่ คนดูอยู่ห่างๆ
คิดได้ว่า…นั่นมันคือ “พวกหมาเห่าใบตองแห้ง”
เอาพิมเสนไปแลกกับเกลือทำไม??
ใครเป็นพิมเสน ใครเป็นเกลือ ใครเป็นหมาเห่าใบตองแห้ง…ประเดี๋ยวมันก็มองเห็น
ใครไปเยี่ยวรดภูเขาทอง
คอยดูกันยาวๆ…เชื่อว่า “ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิดก็ไม่มิดหรอก”
ภาพจะปรากฏออกมาเองแหละ…ใจเย็นๆ เข้าไว้สุนัขรับใช้ทั้งหลายครับ!!
#ชัยอารีย์ #สืบจากข่าว : รายงาน