วันที่ 13 มี.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุด PCT ชุดปฏิบัติการ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง, พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายภัทระหรือฟลุ๊ค ฤทธาภินันท์ อายุ 25 ปี ชาวจ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ จ.356/2565 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ข้อหา “ฉ้อโกง, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” จับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านไม่ทราบเลขที่ ภายในซอยวัดร่าง บ้านกุดแห่ ถ.ชยางกูร ตำบลกุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ต้องหาหลบมาพักอาศัยเมื่อวันที่ 12 มี.ค. เวลาประมาณ 15.30 น. ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าตนเรียนจนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2560 โดยขณะนั้นอายุประมาณ 19 ปี ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพระเครื่องใหม่สายภาคอีสานใต้ เคยมีเฟซบุ๊กสำหรับโพสต์ประกาศเช่าบูชาพระเครื่องส่งพระให้ลูกค้าจริง ชื่อบัญชี “ ชรัณ มุกธวัตร” มีเครดิต มีคนติดตาม มีรายได้จากการปล่อยเช่าบูชาพระเครื่องกว่าเดือนละ 100,000 ถึง 200,000 บาท/ต่อเดือน แต่เนื่องจากติดเล่นเสียการพนันตามบ่อนวิ่งไพ่ป๊อกวิ่งในพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถมีเงินมาหมุนทำการเช่าซื้อขายพระได้ จึงใช้เครดิตการเช่าซื้อขายพระที่ตนพอมีชื่อเสียงทำการหลอกเช่าบูชาพระเครื่องกับลูกค้าที่สนใจในกลุ่มเฟซบุ๊ก อาทิเช่น กลุ่ม “สุดยอดวัตถุมงคลหลวงปูแสง ญาณวโร” กลุ่ม “พระเครื่องหลวงพ่อเล็กวัดท่าขนุน” กลุ่ม “ครูบากฤษดา” เป็นต้น
เมื่อมีลูกค้าเริ่มทราบข่าวการถูกตนโกง ตนก็จะทำการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊ก โดยใช้วิธีการสลับเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กเดิมจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ หรือสลับใช้นามสกุลภาษาอังกฤษขึ้นก่อนชื่อ หรือใช้ชื่ออื่นๆ ที่สื่อความหมายถึงวัด เช่น ชื่อบัญชี “Charun” ชื่อบัญชี “Pat Pat” , ชื่อบัญชี “Pattara” , ชื่อบัญชี “Watpa” ทั้งนี้ ช่วงใดที่ตนเล่นพนันจนมีเงินก้อนพอใช้ก็จะหยุดโกงเพื่อให้เรื่องซา และกลับมาทำใหม่อีกเช่นเดินมวนไป ที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยมีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเดือนละประมาณ 20 ราย มีรายได้จากผู้เสียหายที่หลงเชื่อรายละ 5,000 ถึง 400,000 บาท ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2560 มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 5,000,000 เงินที่ได้จากการก่อเหตุรับว่านำไปใช้จ่ายในชีวิตและเล่นพนันตามบ่อนวิ่งไพ่ป๊อก จากการตรวจสอบประวัติการประทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบข้อมูลประวัติคดี ในฐานข้อมูล จำนวน 9 คดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป