กสม. ชี้ กรณีกลุ่มกิจกรรมนักศึกษารับน้องโดยการบังคับ ข่มขู่ เป็นการละเมิดสิทธิฯ มหาวิทยาลัยต้องรับผิดชอบด้วย แนะกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด – ชี้ โครงการอ่างเก็บน้ำบ้านหนองตาดั้งของกรมชลประทาน ละเมิดสิทธิชุมชน กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง – มีมติหยิบยกกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ขึ้นตรวจสอบ
วันที่ 30 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ นายจุมพล ขุนอ่อน ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1แถลงข่าวเด่นประจำสัปดาห์ครั้งที่ 13/2566 โดยมีวาระสำคัญดังนี้
3.กสม. มีมติหยิบยกกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ขึ้นตรวจสอบ
นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ติดตามสถานการณ์กรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 (Cesium-137) สูญหายจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 304 อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งมีการแจ้งความเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ต่อมามีการนำเสนอข่าวและการค้นหาโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง กระทั่งตรวจพบสารซีเซียมในถุงขนาดใหญ่ของโรงหลอมเหล็กแห่งหนึ่ง ในเขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ส่งผลให้ประชาชนมีความวิตกกังวลถึงผลกระทบของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับมาตรการด้านความปลอดภัย กฎหมาย กฎระเบียบ ในการควบคุมของเสียและกากอุตสาหกรรม การเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในกรณีดังกล่าว รวมทั้งการตั้งคำถามต่อการประกอบกิจการของโรงไฟฟ้าว่ามีการดำเนินธุรกิจโดยเคารพสิทธิมนุษยชนหรือไม่ นั้น
กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ได้พิจารณากรณีดังกล่าวแล้ว จึงมีมติเห็นควรหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นตรวจสอบ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 ซึ่งบัญญัติว่า เมื่อความปรากฏต่อคณะกรรมการไม่ว่าโดยทางใด ไม่ว่าจะมีผู้แจ้งหรือผู้ร้องเรียนหรือไม่ก็ตาม ว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้น ให้คณะกรรมการตรวจสอบเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและทำความจริงให้ปรากฏโดยไม่ล่าช้า และต้องศึกษาและวิเคราะห์ให้ทราบถึงสาเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมุ่งเน้นที่จะแก้ไขปัญหาและป้องกันมิให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเรื่องนั้นหรือลักษณะเดียวกันนั้นขึ้นอีก