“เสรีพิศุทธ์” เปิดคลิปในสภาฯ อ้างพบทุจริตการเลือกตั้งในหลายจังหวัด ซัดรัฐบาลล้มเหลวปฎิรูปประเทศด้านการเมือง แนะให้ ยุบ กกต.จังหวัด เหลือเฉพาะสำนักงาน กกต. ให้ ตำรวจ-ทหารเป็นพนักงานสอบสวน
เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2565 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ ในญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อ ครม. โดยไม่ลงมติ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงความล้มเหลวของการปฏิรูประเทศด้านการเมือง พบมีผู้แทนราษฎรที่ขาดคุณสมบัติรัฐธรรมนูญเข้าปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ก่อนที่จะถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนั้นยังพบมี ส.ส.ที่โกงเข้าสู่สภา และพบว่าย้ายพรรค โดยพรรคที่รับเข้าสังกัดไม่ตรวจสอบ
“ประเด็นปฎิรูปการเมืองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และยุทธศาสตร์ชาติ แต่ไม่มีความคืบหน้า รัฐบาลขาดความจริงใจที่จะปฎิรูปการเมือง การเลือกตั้งย้อนยุดไปสู่ระบบอุปถัมภ์และการใช้เงินเป็นหลัก ”
นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม พื้นที่ จ.ลำปาง นครศรีธรรมราช ว่าพบการซื้อสิทธิขายเสียง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ประยุทธ์เข้ามามีอำนาจโดยการยึดอำนาจออกรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเองตั้งองค์กรอิสระโดยเฉพาะ กกต.ให้มาสนับสนุนพรรคที่ตนสังกัด และการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 มีการโกงอย่างมโหฬาร ส่งทหารไปรบกวนผู้สมัครพรรคอื่น ๆ อย่างตัวของตนเองยังถูกทหารมารบกวนติดตาม ที่ จ.ปราจีนบุรี และเมื่อเรื่องถึงกองบัญชาการกองทัพบก แทนที่ผู้บังคับบัญชาจะเรียกมาว่าหล่าวทำโทษ กลับยกย่อง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปรายเสนอแนะวิธีแก้ปัญหา ทุจริตเลือกตั้ง ด้วยการแก้ไข พ.ร.ป. การเลือกตั้ง พ.ศ.2561 โดยให้ยุบ กกต.จังหวัด เหลือเฉพาะสำนักงาน กกต., ในการเลือกตั้งให้ครู อาจารย์ในพื้นที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ให้ตำรวจ ทหาร เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนจับกุม, สลับตำแหน่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ให้ปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นชั่วคราว และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เป็นพนักงานสอบสวนแม้จะมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง แต่ตรวจไม่พบการทุจริตในพื้นที่ ทำให้เสียงงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายกฯ ตอนนี้หมดสภาพแล้วเดินจะหัวทิ่ม ล้มคะมำ จิตใจก็หวั่นไหว ความรู้ก็ไม่มี สมัยเป็นผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับกองพัน ผู้การกรม เวลาผักซีแพงก็ให้ทหารปลูก ก็แก้ปัญหาได้ แต่ตอนนี้เป็นนายกรัฐมนตรีแต่ใช้วิธีการเดิม แสดงให้เห็นว่าองค์ความรู้ไม่เพิ่มขึ้นเลย เป็นนายกรัฐมนตรีก็มีความคิดเหมือนผู้บังคับกองร้อยกองพัน ความดีก็ไม่ปรากฎ ประเทศชาติก็ถดถอย เศรษฐกิจก็ตกต่ำลงทุกปี โดยในปี 2565 ก็แย่ตามคาด ประชาชนยากจน
ปีนี้บอกจะทำบัตรคนจนเพิ่ม 20 ล้านคน แทนที่จะให้จำนวนคนจนลดลงทุกปี หากให้นายกฯ อยู่ต่อไปอาจมีคนจนเพิ่มเป็น 25 ล้านคน นายกรัฐมนตรีแม้จะมีอำนาจ แต่พรรคพลังประชารัฐแตก ไม่มีเสียงพอในสภา ต้องหาซื้อเสียงฝ่ายค้านไปเป็นพวก มีคนทาบทามให้ผม พรรคเสรีรวมไทยไปเป็นพวก หาทำทุกวิธี
“ผมเชื่อว่าหากยุบสภาฯ ไม่มีทางกลับมา หากลาออกจะเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวตอนท้ายในที่ประชุมสภา ว่า หากคุณประยุทธ์ ทำไม่ได้ก็ขอให้ถอยดีกว่า พร้อมเปิดเพลง “ถอยดีกว่า” ในที่ประชุมสภา