วันอังคารที่ 11 เมษายน 2566 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดงานประจำปี งานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ฯ และงานสงกรานต์ ณ หอพระพุทธสิหิงค์ฯ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี โดยมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดร.ฉวีวรรณ คำพานายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย และพ่อค้าประชาชน ร่วมพิธีเปิดครั้งนี้
จังหวัดชลบุรี ได้จัดงานประจำปี 2566 โดยใช้ชื่อว่า งานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ฯ และงานสงกรานต์ประจำปี 2566 ขึ้น เพื่อส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น รวมทั้งนำรายได้จากการจัดงานไปช่วยเหลือ ด้านสาธารณกุศล พร้อมทำนุบำรุง และสร้างสิ่งสาธารณประโยชน์ต่อไป
นายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า งานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ฯ และงานสงกรานต์จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 11-19 เมษายน 2566 ณ บริเวณหน้าพระพุทธสิหิงค์ฯ บริเวณหน้าสนามศาลากลางจังหวัดชลบุรี และบริเวณสนามหน้าอำเภอเมืองชลบุรี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี และสืบสานประเพณีของจังหวัดชลบุรีที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน งานประจำปีของจังหวัดชลบุรี มีคุณค่าครอบคลุมในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม การกีฬา การรื่นเริงบันเทิงและการส่งเสริมรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นซึ่งงานนี้มีอายุยาวนานมาถึง 91 ปี นับว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญยิ่งของภาคตะวันออก และได้มีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ห้างร้าน มูลนิธิ สมาคม และประชาชนชาวชลบุรี ที่ได้ทุ่มเทและร่วมแรงร่วมใจ ในการดำเนินงานกระทั่งปรากฏผลงานอันทรงคุณค่า และมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือไปทั่วประเทศ การจัดงานใน ครั้งนี้ จังหวัดชลบุรีจัดให้มีกิจกรรมมากมาย เพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้รับทั้งสาระความรู้ ความสุข สนุกสนาน และได้บุญกุศลโดยถ้วนหน้ากัน และขอให้ร่วมกันรักษางานประเพณีอันดีงามนี้ไว้ชั่วลูกชั่วหลานสืบไป
สำหรับงานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ฯ และการสงกรานต์ประจำปี 2566 เป็นงานประจำปีของจังหวัดชลบุรีได้จัดต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 90 ปีแล้ว และปีนี้นับเป็นการจัดงานครบรอบ 91 ปี นับตั้งแต่การจัดงานครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2475 งานนี้เดิมเรียกว่า “งานฉลองสันติภาพ” จัดว่าเป็นงานที่มีชื่อเสียงที่สุดในภาคตะวันออก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรี รวมทั้งนำรายได้จากการจัดงานไปช่วยเหลือด้านสาธารณกุศลพร้อมทำนุบำรุง และสร้างสิ่งสาธารณประโยชน์ คณะกรรมการจัดงานจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิเช่น การจัดนิทรรศการโบราณวัตถุ ศิลปวัฒนธรรมไทยของยุวพุทธิกสมาคมชลบุรี การจัดริ้วขบวนแห่สงกรานต์ การประกวดเทพีสงกรานต์ เพื่อเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ การออกร้านของเหล่ากาชาดจังหวัด การออกร้านของส่วนราชการ และภาคเอกชน การแข่งขันกีฬาไทย การแสดงมหรสพ และการละเล่นต่างๆ ที่สำคัญในปีนี้จังหวัดชลบุรี ได้กำหนดให้ร้านต่างๆ ทั้งของส่วนราชการและเอกชน ตกแต่งร้านในลักษณะของการส่งเสริมให้คนเที่ยวชลบุรี พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีการนำสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และสินค้าหรือผลิตภัณฑ์จากโรงงานอุตสาหกรรม หรือผู้ผลิตในพื้นที่จังหวัดชลบุรีมาร่วมแสดงและจำหน่ายในบริเวณงานด้วย
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า งานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ฯ และงานสงกรานต์จังหวัดชลบุรี ได้จัดสืบทอดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 91 จังหวัดชลบุรี ยังคงรักษาไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามสืบต่อกันมา ซึ่งแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า จังหวัดชลบุรี แม้จะมีการพัฒนาความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านการท่องเที่ยว การค้า การลงทุนด้านเศรษฐกิจที่มีศักยภาพและมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ แต่ยังคงรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ซึ่งสอดคล้องกับ แนวคิดของการจัดงานประจำปีจังหวัดชลบุรี พ.ศ.2566 ที่กล่าวไว้ว่า “งานสงกรานต์ชลบุรี ประเพณีของคนเมืองชล”
การนมัสการพระพุทธสิหิงค์ฯ อันเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดชลบุรี นอกจากเป็นการบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เกิดจากแรงศรัทธา และแรงบันดาลใจอันบริสุทธิ์แล้ว ยังช่วยจรรโลงจิตใจให้ชาวชลบุรี ได้น้อมนำหลักคำสอนในพระพุทธศาสนามาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตทำให้สังคมเมืองชลบุรีมีความร่มเย็นเป็นสุขสอดคล้องกับวิถีของประเพณีสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมประเพณีอันงดงามของคนไทยที่มีคุณค่ามากมายต่อครอบครัว ชุมชน และสังคม ที่แสดงถึงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณอันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลในการดำเนินชีวิต อีกทั้งกิจกรรมต่าง ๆที่จัดขึ้นภายในงานฯ ก็จก่อให้เกิดความรักความผูกพัน ความสมัครสมานสามัคคีของคนในท้องถิ่น นำมาซึ่งความผาสุกในสังคมอีกด้วย
นอกจากนี้ นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี มอบเงินงบประมาณสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้จำนวน 7 ล้านบาท การจัดงานในครั้งนี่มีผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก