วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
หน้าแรกต่างประเทศจีนไช่ อิงเหวิน “เยือนสหรัฐ”

Related Posts

ไช่ อิงเหวิน “เยือนสหรัฐ”

“….การพบกันระหว่าง ไช่ อิง เหวิน และ แมคคาร์ธี เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพทั่วช่องแคบไต้หวัน “การเดินทางผ่าน” ไปยัง สหรัฐฯ ของเธอเอง เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับพรรค DPP  ในการเลือกตั้งปี 2567  และการที่ ไช่ อิง เหวิน ประกาศด้วยตัวเองว่าเป็น “ความก้าวหน้าทางการทูต” ครั้งใหญ่ โดยมีเพียงผล โฆษณาชวนเชื่อภายใน แต่ไม่ได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไต้หวันดีขึ้นเป็นเรื่องที่เสียแรงไปแต่ไม่คุ้มค่า  ไม่เพียงแต่ทำให้จีนแผ่นดินใหญ่ไม่พอใจ ยังทำให้ชาวไต้หวันประท้วงอย่างรุนแรงและเยาะเย้ย อีกทั้งสหรัฐฯ ก็แสดงท่าทีเย็นชา  สุดท้ายทำให้เกิดความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมจีนระบุว่า เราต่อต้านการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการทุกรูปแบบระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน  และต่อต้านการเยือนสหรัฐฯ ของผู้นำไต้หวันไม่ว่าจะในนามหรือเหตุผลใดก็ตาม เรียกร้องให้สหรัฐฯ ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาทางการเมืองที่จริงจังกับจีนในประเด็นไต้หวัน ยุติการแทรกแซงอย่างรุนแรงในกิจการภายในของจีน หยุดการแลกเปลี่ยนที่เป็นทางการและการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน และหยุดอ้างหลักการจีนเดียว  กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) ยึดมั่นในความรับผิดชอบและภารกิจของตน ระมัดระวังอย่างสูงอยู่เสมอ ปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติอย่างเด็ดเดี่ยว รักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างแน่วแน่…”

ไช่ อิงเหวินเยือนสหรัฐฯ ก่อให้เกิดความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน

ผู้นำ ไช่ อิง เหวิน แห่งจีนไต้หวันเดินทางเยือนสหรัฐฯ ในนามของ “การผ่านแดน” และพบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แมคคาร์ธีย์ที่นคร-ลอสแอนเจลิส 

เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ผู้นำ ไช่ อิง เหวิน แห่งจีนไต้หวันเดินทางเยือนสหรัฐฯ ในนามของ “การผ่านแดน” และพบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แมคคาร์ธีย์ที่นคร-ลอสแอนเจลิส  ซึ่งเป็นการผลักดันความตึงเครียดไปทั่วช่องแคบไต้หวัน และดึงดูดความสนใจอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ

1. จีนคัดค้านอย่างรุนแรง

กระทรวงการต่างประเทศจีน คณะกรรมการกิจการต่างประเทศของสภาประชาชนแห่งชาติ และสำนักงานกิจการไต้หวันของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ว่าสหรัฐฯ เพิกเฉยต่อการแสดงอันเคร่งขรึมและคำเตือนซ้ำ ๆ ของจีน อนุญาตให้ ผู้นำไช่ อินเหวิน “เดินทางผ่าน”  โดยเป็นเวทีให้เธอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ “เอกราชของไต้หวัน”  เป็นการละเมิดหลักการจีนเดียว ทำร้ายอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน และละเมิดพันธสัญญาของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีนเกี่ยวกับประเด็นไต้หวันอย่างร้ายแรง และส่งสัญญาณที่ไม่ถูกต้องไปยังกองกำลังแบ่งแยกดินแดน “เอกราชไต้หวัน” ถือเป็นการละเมิดข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ความยุติธรรม และหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ โดยเน้นย้ำว่าประเด็นไต้หวันเป็นแกนหลักของผลประโยชน์หลักของจีน และเป็นเส้นแดงเส้นแรกที่ไม่อาจแตกหักในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยย้ำว่ามีจีนเพียงแห่งเดียวในโลก ไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีนที่แบ่งแยกไม่ได้ และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงแห่งเดียวที่เป็นตัวแทนของจีนทั้งหมด เตือนผู้มีอำนาจของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DDP) ให้ละทิ้งแผน “เอกราชของไต้หวัน” โดยสิ้นเชิง และไม่เดินไปสู่ความมืดมนบนเส้นทางของการ “พึ่งพาสหรัฐฯ เพื่อเอกราช”   มิฉะนั้น การกระทำใด ๆ ที่แสวงหา “เอกราช” จะถูกทำลายลงภายใต้พลังอันแข็งแกร่งของการต่อต้านเอกราชของประชาชนจีนที่ส่งเสริมการรวมชาติ 

โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนระบุว่า เราต่อต้านการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการทุกรูปแบบระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน  และต่อต้านการเยือนสหรัฐฯ ของผู้นำไต้หวันไม่ว่าจะในนามหรือเหตุผลใดก็ตาม   เรียกร้องให้สหรัฐฯ ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาทางการเมืองที่จริงจังกับจีนในประเด็นไต้หวัน ยุติการแทรกแซงอย่างรุนแรงในกิจการภายในของจีน หยุดการแลกเปลี่ยนที่เป็นทางการและการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน และหยุดอ้างหลักการจีนเดียว  กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) ยึดมั่นในความรับผิดชอบและภารกิจของตน ระมัดระวังอย่างสูงอยู่เสมอ ปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติอย่างเด็ดเดี่ยว รักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างแน่วแน่  

2. ชาวไต้หวันบนเกาะฯ ประท้วงอย่างรุนแรง

เมื่อเย็นวันที่ 7 ไช่ อิงเหวิน เดินทางกลับถึงไต้หวัน  พรรคการเมืองหลายสิบพรรคและกลุ่มการเมืองสิบกว่ากลุ่มดำเนินการต่อต้าน “เอกราชของไต้หวัน” ที่สนามบินเถาหยวน เพื่อคัดค้านการกระทำที่ยั่วยุของพรรค DPP ที่ส่งเสริม “การพึ่งพาสหรัฐอเมริกาในการแสวงหาเอก-ราช” และทำร้ายไต้หวันเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนทางการเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตัวแทนจากทุกสาขาอาชีพบนเกาะฯ เกือบ 300 คน ชูป้ายและตะโกนว่า “ต่อต้านเอกราชของไต้หวัน ปกป้องไต้หวัน”  “ไช่อินเหวินพบแมคคาร์ธีย์  คือการขายไต้หวัน”  “พึ่งพาสหรัฐฯ เพื่อแสวงหาเอกราช ขุดคุ้ยไต้หวัน” “รักจีน เอาชนะ เอกราชไต้หวัน” เป็นต้น

ผู้นำชุมนุม นายอู๋ หรงหยวน และ นายหวาง เจิ้ง กล่าวว่า “สหรัฐอเมริกาถือว่าไต้หวันเป็นเพียงเบี้ย  ไช่ อิง เหวิน และพรรค DPP กำลังเดินตามเส้นทางของการ ‘ขายไต้หวัน’ ซึ่งคนไต้หวันจะไม่เห็นด้วย” 

“การพบกันระหว่าง ไช่ อิง เหวิน และ แมคคาร์ธี เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพทั่วช่องแคบไต้หวัน เราต้องแสดงความเกรี้ยวโกรธของเราด้วยการผูกไต้หวันไว้กับรถรบของสหรัฐฯ” 

“เราขอเรียกร้องอย่างจริงจังต่อ ไช่ อินเหวิน และทางการพรรค DPP ให้หักมุมและไม่ขายไต้หวันให้กับสหรัฐฯ โดยเด็ดขาด”

สื่อและผู้เชี่ยวชาญบนเกาะไต้หวันยังคงวิจารณ์ ไช่ อิง เหวิน สำหรับการแสดงเงอะงะของเธอในสหรัฐฯ โดยเน้นว่าฮอนดูรัสได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ “ทางการทูต” กับไต้หวันก่อนหน้านี้ เรื่องนี้ทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทางการพรรค DPP ไช่ อิง เหวิน ต้องการแสดงให้เห็นถึงความปรองดองของ “ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน” โดย “การเดินทางผ่าน” ไปยัง สหรัฐฯ ของเธอเอง เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับพรรค DPP  ในการเลือกตั้งปี 2567 แต่การที่ ไช่ อิง เหวิน ประกาศด้วยตัวเองว่าเป็น “ความก้าวหน้าทางการทูต” ครั้งใหญ่ โดยมีเพียงผล โฆษณาชวนเชื่อภายใน แต่ไม่ได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไต้หวันดีขึ้น

“กิจกรรมระหว่างประเทศ” ทั้งหมดของพรรค DPP เพียงเพื่อส่งเสริม “เอกราชของไต้หวัน” เท่านั้น และประเทศเดียวที่พวกเขาสามารถพึ่งพาได้ก็คือสหรัฐอเมริกา แม้ว่าตอนนี้ไต้หวันขาดแคลนไข่ไก่ น้ำ และไฟฟ้า แต่พรรค DPP แสวงหาผลประโยชน์ของตนอย่างเดียว ไม่ห่วงใยชาวไต้หวันแต่อย่างใด  ทว่าส่งเสริมการกระทำ “เอกราชของไต้หวัน” มีแต่จะก่อให้เกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางทหารในที่สุด

นอกจากนี้ ชาวเว็บไซต์ออนไลน์ใหญ่ ๆ ในไต้หวันได้แสดงความคิดเห็นว่า พรรค DPP จะได้รับผลกระทบกับการที่ไช่ อิงเหวินเยือนสหรัฐฯ :

ประการที่ 1: การปิดกั้น “ทางออก” ของตน: ชาวเน็ตไต้หวันได้สรุปไว้ว่า  “การเยือน” หมายถึง “การตัดสัมพันธ์ทางการทูต” ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อไช่ อิง เหวินไปเยี่ยมเยือนต่างประเทศโดยการผ่านแดนเมืองหลัก ๆ ของสหรัฐฯ  ภายในหกเดือนจะมีประเทศ “ตัดสัมพันธ์ทางการทูต” กับไต้หวัน

ประการที่ 2 : การจ่ายเงินทำลายชื่อเสียง: ปัจจุบันนี้ สังคมไต้หวันรังเกียจการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตแบบการจ่ายเงิน และรู้สึกว่าการจ่ายเงินเพื่อซื้อ “สายสัมพันธ์ทางการฑูต” เป็นสิ่งที่ไม่สิ้นสุด  ไช่ อิง เหวิน หวังพึ่งพาสหรัฐฯ เพื่อช่วยไต้หวันรักษา “ความสัมพันธ์ทางการทูต” ในทวีปอเมริกา  แต่ความจริงก็คือ 7 ปีแห่งการปกครองของ ไช่ “ความสัมพันธ์ทางการทูต” ของไต้หวันก็น้อยลง  และชื่อเสียงของทางการไต้หวันก็แย่ลงอย่างต่อเนื่อง   ชาวเน็ตจึงตั้งคำถามว่าการใช้เงินจะซื้อความจริงใจได้หรือ

ประการที่ 3 : ยิ่งทำมากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพก็ยิ่งน้อยลง และใช้เงินมากขึ้นเท่านั้น: อันที่จริง ไช่ อิงเหวิน ไม่มีอิทธิพลที่แข็งแกร่งมากนักในสหรัฐฯ และต้องสร้างความสัมพันธ์ตั้งแต่เริ่มต้น การโปรยเงินอย่างไม่มีจุดหมายเพื่อสร้างความสัมพันธ์  นอกจากจะเสียเงินที่หามาอย่างยากลำบากของประชาชนในไต้หวันแล้ว อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ใด ๆ  แต่ด้วยการโอนเงินดอลล่าร์และทองคำไปยังสหรัฐอเมริกากลายเป็นธรรมเนียม ทำให้นักการเมืองสหรัฐฯ เกิดความกระหายมากขึ้น ดังนั้น ไช่ อิง เหวิน ต้องจ่ายมากยิ่งขึ้น

ประการที่ 4 : เงินกู้เพื่อซื้ออาวุธ: ในช่วงสิ้นปี 2565 สภาสหรัฐฯ หารือเกี่ยวกับงบประมาณด้านกลาโหมประจำปีงบประมาณ 2566 และเตรียมมอบอำนาจให้รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2566-2570 มอบความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ไต้หวัน มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี แต่เมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการอนุญาตป้องกันประเทศ งบประมาณช่วยเหลือทางทหารที่ยังไม่ได้ชำระกลับไม่ปรากฏขึ้น แต่เงินกู้ทางทหารจำนวน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐที่ต้องชำระคืนภายใน 12 ปีกลับถูกระบุไว้อย่างชัดเจน   วิธีการแสดงความจงรักภักดีของไช่ อิงเหวิน คือการรับฟังนโยบายทั้งหมดจากสหรัฐฯ คนอเมริกันให้ซื้ออะไร ไต้หวันก็ซื้อตาม ทำให้สหรัฐฯ รู้สึกว่า ตนเองไม่ต้องทำอะไรก็สามารถทำเงินได้แล้ว และเพิ่มความกระหายมากยิ่งขึ้น ชาวเน็ตบางคนเหน็บแนมว่า  “มีสุนัขที่ไหนที่ต้องซื้อกระดูกจากเจ้าของตนเอง”

3. สหรัฐฯ ต้อนรับ “การเยือน” ของไช่ อิน เหวิน แบบเรียบง่าย

หลังจากที่ ไช่ อิน เหวิน เดินทางถึงนครนิวยอร์ก ชาวจีนโพ้นทะเลในท้องถิ่นก็มารวมตัวกันที่ทางเข้าโรงแรมที่ไช่ อิน เหวินเข้าพักอยู่  เพื่อประท้วงและเดินขบวน โบกธงแดงห้าดาว และชูป้าย “มีจีนเพียงหนึ่งเดียวในโลก”   ต่อต้านการเยือนสหรัฐฯ ของ ไช่ อิงเหวิน อย่างรุนแรง โดยเชื่อว่าการเยือนสหรัฐฯ ของไช่ อิงเหวินไม่เพียงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันเลวร้ายลงเท่านั้น แต่ยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ตึงเครียดยิ่งขึ้นด้วย   นักเคลื่อนไหวต่อต้านสงครามชาวอเมริกันยังชูป้ายวิจารณ์ว่า “ไช่ อิงเหวินกำลังยั่วยุให้เกิดสงคราม” โดยย้ำว่า “จีนไม่ใช่ศัตรูของเรา” และ “อย่าใช้เงินภาษีในการจัดหาอาวุธให้กับไต้หวัน” 

ทางการสหรัฐฯ ใช้ท่าทีเย็นชาต่อ “การเยือนสหรัฐฯ” ของไช่ อิง เหวิน และประกาศเลื่อนการปราศรัยของไช่ อิง เหวิน โดยระบุว่ารัฐบาลฯ จะไม่จัดประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ และ ไช่ อิง เหวิน เนื่องจากการเยือนของไช่ อิงเหวิน เป็นการเดินทางส่วนตัว หลังจากพบกับ ไช่ อิง เหวิน แมคคาร์ธี ยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ จะยังคงรักษา “นโยบายจีนเดียว” ต่อไป และย้ำว่า จะไม่เชิญ ไช่ อิง เหวิน ไปกล่าวปราศรัยในสภาคองเกรส และจะไม่นำคณะผู้แทนเยือนไต้หวัน แม้จะไป ก็ไปในนามส่วนตัว

โดยรวมแล้ว “การมาเยือน” ของ ไช่ อิง เหวิน เป็นเรื่องที่เสียแรงไปแต่ไม่คุ้มค่า  ไม่เพียงแต่ทำให้จีนแผ่นดินใหญ่ไม่พอใจ ยังทำให้ชาวไต้หวันประท้วงอย่างรุนแรงและเยาะเย้ย อีกทั้งสหรัฐฯ ก็แสดงท่าทีเย็นชา  สุดท้ายทำให้เกิดความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  

ตั้งแต่วันที่ 8 ถึง 10 เมษายน กองบัญชาการตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA)ได้จัดการฝึกลาดตระเวนและ “ดาบร่วม” ในช่องแคบไต้หวันและน่านฟ้าทางตอนเหนือและตอนใต้ของเกาะไต้หวัน ตลอดจนทะเลจีนตะวันออกที่อยู่ไกลออกไป  ทหารหลายหน่วยร่วมกันใช้ยุทโธปกรณ์ขั้นสูง เช่น ปืนใหญ่จรวด เรือพิฆาต เรือนำวิถี  ขีปนาวุธต่อต้านเรือ เครื่องบินรบ เครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้า และขีปนาวุธ DF-11   นักวิเคราะห์ชี้ว่าการซ้อมรบครั้งนี้มีผลกระทบต่อทั้ง 4 ทิศของเกาะไต้หวัน  มีแนวโน้มโอบล้อมช่องแคบไต้หวัน ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก  การซ้อมรบครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณต่อกองกำลังแบ่งแยกดินแดน “เอกราชไต้หวัน”  ว่าจีนแผ่นดินใหญ่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรอบด้าน

#สืบจากข่าว : รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts