มาร์ค พิทบูล ร้อง โดน สน.ดุสิต ออกหมายจับพรบ.ความสะอาดและเครื่องขยายเสียงจากการเผาโรงประท้วงหน้าทำเนียบรัฐบาลช่วงการประชุมอาเซียน แต่ไม่ยอมถอนข้อมูลออกจากระบบจนทำให้เดินทางเข้าออกประเทศไม่ได้ เชื่อเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองให้ได้รับความเดือดร้อน
เวลา 09.30 น. วันที่ 24 เม.ย. ที่ สน.ดุสิต นายณัชพล สุพัฒนะ”มาร์ค พิทบูล” เข้ายื่นหนังสือเพื่อให้มีการตรวจสอบกรณีตนเดินทาง
เข้า-ออกไปประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 13 เมย. ที่ผ่านมา แต่ไม่ผ่าน ตม. โดยมีการอ้างว่าได้รับแจ้งว่ามีหมายจับจาก สน.ดุสิต อยู่ในระบบฯ
พ.ต.อ.ไตรเทพ แพทย์รัตน์ ผกก.สน.ดุสิต พ.ต.ท.พงศพัศ บัวรุ่ง รอง ผกก(สอบสวน) สน.ดุสิต เป็นผู้รับหนังสือ ก่อนจะขอตรวจสอบหมายจับดังกล่าวให้ทันที
นาย ณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรครักษ์พื้นป่าประเทศไทย เขายื่นหนังสือถึงผู้กำกับการสน. ดุสิตให้ตรวจสอบกรณีที่เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมาตนเองได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นกับครอบครัว แต่กลับถูกกับตัวในขาออกโดยเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอ้างว่าตนเองมีหมายจับค้างเก่าในพื้นที่สน.ดุสิต ใน 3 ข้อหาคือวางสิ่งของกีดขวางในที่สาธารณะ,กระทำการอันเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม,และใช้เครื่องขยายเสียงก่อความรบกวนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นผลจากการทำกิจกรรมประท้วงในช่วงการจัดประชุมเอเปคที่ผ่านมา โดยเป็นการจุดไฟเผาเชิงสัญลักษณ์ในโลงศพและเปิดลำโพงบทสวด ซึ่งในครั้งนั้นช่วงก่อนจัดกิจกรรมได้มีการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้เผาโรงศพเพราะเกรงว่าจะเกิดอัคคีภัยไปยังสถานที่ราชการที่อยู่ใกล้เคียง จึงได้จัดกิจกรรมเป็นเชิงสัญลักษณ์ด้วยการเผากระดาษในกะละมังที่ใส่ไว้ในโลงศพและเปิดบทสวดดังกล่าว ต่อมาผู้ที่ร่วมการประท้วง 10 คนถูกออกหมายจับใน 3 ข้อหาดังกล่าว จากนั้นตนเองก็ใช้ชีวิตตามปกติเรื่อยมาและได้มีการตรวจสอบกับทนายความว่ามีหมายจับใดติดตัวครั้งเก่าอยู่หรือไม่ซึ่งทนายความได้ให้ข้อมูลว่าไม่มีหมายจับใดๆตกค้างอยู่ จึงเดินทางไปต่างประเทศ
ครั้งนี้ในวันที่ 13 เม.ย. ได้ทำหนังสือสอบถามและพูดคุยจนสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ กระทั่งวันเดินทางกลับในวันที่ 17 เม.ย. ก็ไม่สามารถเดินทางกลับเข้าประเทศได้อีก เพราะยังคงมีข้อมูลการถูกออกหมายจับค้างอยู่ จึงทำให้ตนเองรู้สึกไม่พอใจและได้ให้ทนายความตรวจสอบข้อมูลหมายจับครั้งเก่าทั้งหมดที่มีก็พบว่าตนเองไม่ได้มีหมายจับใดๆค้างอยู่
ในวันนี้จึงเดินทางมาให้ทางสน. ดุสิตตรวจสอบว่าตกลงแล้วตนเองยังมีหมายจับค้างเก่าอยู่หรือไม่เพราะจากการตรวจสอบพบว่าหมายจับดังกล่าวหมดอายุไปแล้ว และหากหมายจับยังมีอายุความอยู่ก็ให้จับกุมดำเนินคดีกับตนเองทันที แต่หากเป็นหมายจับค้างเก่าที่หมดอายุและค้างอยู่ในระบบก็จะต้องได้คำตอบว่าเหตุใดจึงไม่นำข้อมูลดังกล่าวออกจากระบบจนทำให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้บอกว่าหากกรณีนี้เกิดขึ้นกับชาวบ้านประชาชนทั่วไป ก็จะไม่มีช่องทางในการเรียกร้องความเป็นธรรมและอาจได้รับความเดือดร้อนมากกว่าตนเองอีกหลายเท่า โดยในช่วงบ่ายวันนี้จะนำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนกับสำนักงานป.ป.ช. ให้ช่วยตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการกลั่นแกล้งหรือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือไม่
ทั้งนี้หลังการให้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวมาร์คพิทบูลเข้าไปพูดคุยภายในห้องรองผู้กำกับการสอบสวนสน.ดุสิต เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าตกลงแล้วยังมีหมายจับติดตัวหรือยังมีผลทางคดีอยู่หรือไม่
ทั้งนี้มีรายงานว่าจากการตรวจสอบของพนักงานสอบสวนสนดุสิตพบว่า หมายจับดังกล่าวได้หมดอายุความไปแล้วและไม่สามารถใช้ดำเนินการจับกุมนายมาร์คพิทบูลได้ จึงเตรียมพิจารณาข้อมูลและรายละเอียดหมายจับอื่นๆว่ามีหมายจับใดค้างเก่าอยู่หรือไม่และดำเนินการแก้ไขข้อมูลต่อไป