วันที่ 19 ก.พ. ที่ จ.สระบุรี วันนี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ เเละสังคม ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะ ลงพื้นที่เปิดศูนย์ดิจิทัลชุมชนที่อำเภอเเก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยมานายสมบัติ อำนาคะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ และ นางอังคณา ชิตะติตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี มาให้การต้อนรับ
นายชัยวุฒิ ระบุว่า การลงพื้นที่วันนี้เป็นไปตามนโยบายของ ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อยากสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร การทำธุรกิจต่างๆในชุมชน ซึ่งที่แก่งคอยก็เป็นหนึ่งที่เราตั้งไว้แล้วประชาชนได้ประโยชน์ ทั้งการเรียนรู้เรื่องต่างๆผ่านระบบอินเตอร์เน็ต แล้วก็ส่งเสริมให้พี่น้องทำธุรกิจออนไลน์ต่างๆ ตอนนี้เปิดไปแล้ว500ศูนย์ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีอยากให้กระจายการใช้อินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ ในการทำธุรกิจต่างๆให้ไปครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เราทำได้ 500 ศูนย์แล้วของกระทรวงดิจิทัล แล้วก็มีของ กสทช ทำด้วยอีกส่วนหนึ่ง แล้วในปีนี้ตั้งใจทำให้ได้อีกประมาณ 2,000 ศูนย์ทั่วประเทศ
ส่วนการอภิปรายเมื่อวาน 2วันที่ผ่านมาฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก ได้อภิปรายถึงปัญหาความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชน หลายเรื่องก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลก็ทราบอยู่แล้ว แล้วก็ได้แก้ไขปัญหาไปแล้ว รัฐบาลก็ได้มีโอกาสชี้แจงในการแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ เช่นปัญหาสินค้าราคาแพง ปัญหาน้ำมันราคาแพง ซึ่งรัฐบาลก็ได้ทำไปเยอะ วันนี้ปัญหาต่างๆก็คลี่คลายไปแล้วดีขึ้น ส่วนในเรื่องการอภิปรายก็จะมีการเสียดสีบ้าง มีการใช้ถ้อยคำรุนแรงบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง เป็นสไตล์ของนักการเมือง ทางรัฐบาลก็ไม่ได้ติดใจ หรือไม่ได้คิดว่าเป็นสิ่งที่เป็นปัญหาอะไร
จริงๆพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกันรุนแรงนะ ทำงานร่วมกันได้ ดูจากการทำงานในสภา หรือในรัฐบาลเนี่ยก็ยังราบรื่นอยู่ ไม่ได้มีปัญหาในพรรค แต่ส่วนว่าในพื้นที่อาจจะมีความขัดแย้งกันบ้างในบ้างจังหวัด หรือว่าในการเตรียมผู้สมัครสส ก็เป็นธรรมดาเพราะว่าปกติก็มีคนขอลงสมัครแล้วพื้นที่ทับซ้อนกัน พูดง่ายๆก็คือแย่งกันลงสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐก็อาจจะมีความขัดแย้งกันบ้างเป็นเรื่องปกติ ก็มีทุกพรรค พรรคการเมืองทุกพรรคก็มีปัญหานี้แหละก็เป็นเรื่องปกติเพราะว่าเหลืออีก1ปีเลือกตั้ง คนที่จะลงสส ก็ต้องเตรียมตัวกันแล้ว เตรียมลงพื้นที่เตรียมทำงานกัน ก็จะมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกันซึ่งเป็นปัญหาทุกพรรค เรื่องการแก้ไขปัญหาก็เป็นหน้าที่ของท่านหัวหน้าพรรค แล้วก็กรรมการบริหารพรรคก็ต้องมาพูดคุยกับผู้สมัครสส หรือสมาชิกพรรคมันหาทางออกได้อยู่แล้ว ทุกพรรคก็ต้องเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน สุดท้ายเราก็ต้องเอาคนที่มีความพร้อม และมีความตั้งใจที่จะมาดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่นั้นในจังหวัดนั้นก็หาทางออกได้อยู่แล้วไม่ใช่ปัญหาอะไร เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะจัดการ เคลียร์ใจปัญหานี้ได้ เช่นเดียวกันกับพรรคภูมิใจไทยเเละท่านอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรค ภูมิใจไทยที่ช่วงนี้เนื้อหอม เป็นพรรคการเมืองที่น่าสนใจก็เเสดงให้เห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังคงได้รับความนิยม ท่านอนุทิน ก็เป็นคนมีความสามารถ เป็นเเคนดิเดทเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เเต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
เพราะเชื่อว่าขณะนี้ทุกคนในพรรคร่วมรัฐบาลยังคงให้การสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จนครบวาระ ต่อไป