จากกรณี ช่วงเช้ามืด วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุข่าวสาวพริตตี้ รับงานชงเหล้าชี้เป้าให้ นายสราวุธ สุธาพจน์ อายุ 31 ปี หรือ “เบียร์ กอไผ่” หัวหน้าแก๊งพาลูกสมุน ใช้อาวุธปืนบุกปล้นบ้านพัก ใช้สายไฟจับมัดมือ-เท้านักท่องเที่ยวชาวจีน ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านจอมเทียนสายสอง จ.ชลบุรี ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ เช่น เงินสด ทองคำ นาฬิกา และรถเก๋ง รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน ช่วยกันเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับคนร้ายรวมทั้งหมด 5 คน ก่อนจะสามารถจับกุมลูกน้องได้ 2 คน ได้ที่จังหวัดระยอง และมีการยิงปะทะต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างเข้าจับกุม ส่วนที่เหลืออีก 3 คน ยังคงหลบหนีไปได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ 17 พ.ค. มีรายงานว่า พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 ได้รับรายงานว่า เวลาประมาณ ตี 1 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ขณะที่ออกลาดตระเวนกับทหารพราน สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีดังกล่าวไว้ได้ทั้งหมด ที่บริเวณริมคลองพรหมโหด (คลองเขตแดนไทย-กัมพูชา) บ้านท่าข้าม ม.1 ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ระหว่างหนีข้ามไปประเทศกัมพูชาผ่านช่องทางธรรมชาติ จึงสั่งให้การให้ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.ชลบุรี นำกำลังชุดสืบสวน ไปรับตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมยัง สภ.เมืองพัทยา เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ รวมถึงแถลงข่าวปิดคดีต่อสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นการก่อคดีที่อุกฉกรรจ์
โดยจากการตรวจสอบ พบว่าทั้ง 3 คน ทราบชื่อคือ นายสราวุธ สุธาพจน์ อายุ 31 ปี หรือ “เบียร์ กอไผ่” (หัวหน้าแก๊ง) นายนครินทร์ แซ่เตียว หรือนิว อายุ 26 ปี และนายวันชัย กรีดกราย หรือเอ็ม อายุ 27 ปี ยอมรับว่าเป็นผู้ต้องหาในหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในข้อกล่าวหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีคนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วยโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ, พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางเป็น รถยนต์กระบะ ที่ใช้ในการก่อเหตุ รถเก๋ง 1 คัน ของชาวจีนที่ถูกคนร้ายปล้น
พล.ต.ต.กัมพล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหา ทราบว่า ให้การยอมรับว่า เป็นการก่อเหตุที่ประสงค์ต่อทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวจีนเท่านั้น ไม่มีปัญหาแค้น เรื่องส่วนตัว หลังจากก่อเหตุได้แบ่งเงินกันตามสัดส่วนก่อนแยกย้ายหลบหนี ซึ่งตลอดการหลบหนี จะอาศัยพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นที่ซ่อนตัว แต่สุดท้ายไม่รอดถูกหน่วยลาดตระเวนชายแดน จังหวัดสระแก้ว รวบตัวไว้ได้ในที่สุด ส่วนเงินจำนวน 207,500 บาท ของชาวจีนที่ได้จากการข่มขู่คนจีนให้ถ่ายโอนเงินไปยังบัญชีม้า ตำรวจสามารถจับกุมตัวเจ้าของบัญชีได้แล้ว นอกเหนือจากคนร้ายทั้งหมด 5 คน โดยตรวจสอบประวัติกลุ่มผู้ต้องหา พบว่าเคยถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง ส่วนประเด็นสาวพริตตี้ ที่ชี้เป้าให้ก่อเหตุนั้นอยู่ในระหว่างการสอบสวน หากพบบุคคลใดเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
ขณะที่ พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.ชลบุรี กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามาพักผ่อน โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง บูรณาการกำลังร่วมกัน สแกนคนร้ายข้ามชาติ กลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวมากับกลุ่มนักท่องเที่ยว มาตั้งฐานก่อเหตุในประเทศไทย จนชื่อเสียงการท่องเที่ยวได้รับความเสียหาย ตลอดทุกสัปดาห์จะมีการตรวจค้นจู่โจมเป้าหมายแหล่งมั่วสุมต่างชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว.
