ผู้เสียหายร้องเรียนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)และ อย. หลังฉีดฟิลเลอร์และร้อยไหม แต่เกิดมีปัญหาปากผิดรูปและไหมทะลุหน้า ผ่านมากว่า 1 ปี ยังไม่ได้รับการเยียวยา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือและตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ผู้เสียหายนำเอกสารหลักฐานยื่นต่อ นายสาโรจน์ ยอดประดิษฐ์ เลขานุการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และนายชาตรี พินใย ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สบส. เพื่อให้ตรวจสอบและขอความเป็นธรรม หลังจากได้รับความเดือดร้อน จากกรณีเมื่อปลายปี 2564 พบโฆษณาทางสื่อออนไลน์ของคลินิกชื่อดัง จัดโปรโมชั่นลดราคา จึงสนใจไปเสริมความงามที่คลินิกแห่งนี้ซึ่งมีสาขาอยู่ที่ห้วยขวางและชินเขต แต่หลังทำแล้วเกิดปัญหาและยังไม่ได้รับการเยียวยาจากคลินิกดังกล่าว
นส.เอ ผู้เสียหายรายแรก เผยว่า ตนฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก แต่เกิดการอักเสบ บวม ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาจากโรงพยาบาลอื่น มีใบรับรองแพทย์ว่า พบสิ่งแปลกปลอมบริเวณปากและต้องผ่าตัดนำสิ่งแปลกปลอมออก
น.ส.บี ผู้เสียหายคนที่ 2 เผยว่า ได้ทำการร้อยไหมที่ใบหน้า จากนั้นเกิดอาการปวด,ใบหน้ากระตุก ปัจจุบันมีปลายไหมทะลุออกมาจากใบหน้า ยังไม่ได้ทำการรักษา โดยคนที่ทำหัตถการให้เป็นหมอปลอมด้วน
น.ส.ซี ผู้เสียหายคนที่ 3 เผยว่า ได้ฉีดหน้าใสแล้วหน้าผิดรูป ที่ผ่านมาไปแก้ไขที่โรงพยาบาลอื่นจนหายแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากคลินิกดังกล่าว
นอกจากนี้หนึ่งในผู้เสียหาย ที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก เปิดเผยว่าหลังเกิดปัญหามีการนัดหมายให้เข้าไปแก้ไขเพื่อฉีดสลายฟิลเลอร์ในวันที่ 13 ธ.ค.2564 แต่ทางคลินิกแจ้งเลื่อน เนื่องจากจะมีเจ้าหน้าที่ อย.สบส.กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่มาตรวจสอบหลังถูกร้องเรียนว่าคลินิกแห่งนี้ใช้ยาถูกต้องหรือไม่ แต่หลังจากนั้นทราบว่า ผลการตรวจสอบไม่พบตัวยาที่ไม่ถูกต้อง ทำให้คลินิกนำมาอ้างกับผู้เสียหาย และไม่รับผิดชอบ ผู้เสียหายสงสัยว่า ทำไมคลินิกถึงทราบก่อนว่าเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบ
ด้าน สบส.ได้ให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้งถึงข้อสงสัยในทุกประเด็น และจะดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย โดยจะประสานไปยังคลินิกดังกล่าวเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกันต่อไป อีกทั้งปัญหานี้ ยังได้ยื่นเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ด้วย
โดยวันพรุ่งนี้( 1 มิ.ย.) ผู้เสียหายทั้งหมดจะเข้าพบ ให้จ้อมูล พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ.ที่ อาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อ ดำเนินคดีกับคลีนิคดังกล่าวตามกฎหมายต่อไป
