ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกบริษัท คอนเซ็ปต์ ซีรี่ส์ จำกัด ร่วมกันหลอกลวงชักชวนให้เข้าร่วมการลงทุนในการให้บริหารเช่าพื้นที่บน Cloud Storage ต่อมาบริษัทฯ ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนจนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย แจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้ 3,531 ราย มูลค่าความเสียหายรวม1,303,127,202.99 ล้านบาท ผู้ต้องหาเป็นกรรมการที่มีอำนาจลงนามในบริษัทได้หลบหนีหายเข้ากลีบเมฆตั้งแต่หมายจับออกเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 กลุ่มผู้เสียหายจึงได้ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล IDMB ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางพัฒนา ด้วงชนะ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่โดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านยังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้จากหน่อยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. /หัวหน้าชุด PCT 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง, พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นางพัฒนา ด้วงชนะ อายุ 69 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 4 ตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 79/2565 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในสถานปฏิบัติธรรมนาโสกวิปัสสนา ฐิตธัมโม ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
พฤติการณ์กล่าวคือ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกบริษัท คอนเซ็ปต์ ซีรี่ส์ จำกัด ร่วมกันหลอกลวงชักชวนให้เข้าร่วมการลงทุนในการให้บริหารเช่าพื้นที่บน Cloud Storage โดยเสนอผลตอบแทนให้แก่ผู้ร่วมลงทุนในอัตราสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน คล้ายลักษณะแชร์ลูกโซ่จนเป็นเหตุให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ต่อมาบริษัทฯ ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนจนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย แจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้ 3,531 ราย เข้ามาให้การต่อพนักงานสอบสวนแล้ว 2,878 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,303,127,202.99 ล้านบาท และยังไม่มาให้การอีก จำนวน 653 ราย ทั้งนี้ ในส่วนของคดีทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้มีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว 1 ราย คือ นายศุภสรร ด้วงชนะ กรรมการบริษัทคอนเซ็ปต์ ซีรี่ส์ จำกัด และประสาน ปปง.ติดตามทรัพย์สินของผู้ต้องหาเพื่อเป็นการเยียวยาให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง ทั้งนี้ ยังมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและหลบหนีโดยไม่สามารถติดตามตัวได้ โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวมีหมายจับของ สภ.แม่ทะ ภ.จว.ลำปาง ติดตัวในความผิดเดียวกัน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI อยู่ระหว่างพิจารณาเสนอต่อศาลเพื่ออนุมัติออกหมายจับ คือ นางพัฒนา ด้วงชนะ เป็นมารดาของนายศุภสรร ด้วงชนะ ซึ่งเป็นกรรมการที่มีอำนาจลงนามในบริษัท คอนเซ็ปต์ ซีรี่ส์ จำกัด โดยได้หลบหนีหายเข้ากลีบเมฆตั้งแต่หมายจับออกเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 กลุ่มผู้เสียหายจึงได้ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล IDMB ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางพัฒนา ด้วงชนะ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่โดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านยังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้จากหน่อยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 รีบดำเนินการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากถือเป็นความเดือดร้อนของประชาชน ตลอดจนเป็นคดีที่มีผู้เสียหาย รวมทั้งความเสียหายจำนวนมาก จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาขณะบวชชีอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมนาโสกวิปัสสนา ฐิตธัมโม ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้ข้อมูลว่าเดิมทีตนเป็นอาจารย์สอนระดับมัธยมศึกษาในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง หลักเกษียณบุตรชายได้ขอนำชื่อตนไปเป็นกรรมการในบริษัท โดยที่ตนไม่ทราบการดำเนินกิจการของบริษัทดังกล่าวนั้นแต่อย่างใด ตลอดจนของให้การอื่นๆ ในชั้นสอบสวนและชั้นการพิจารณาคดีของศาล ทั้งนี้ ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบตัวขณะที่ผู้ต้องหาบวชชีและปฏิบัติธรรมอยู่ในสถานปฏิบัติธรรม โดยมีอดีตสามีบวชเป็นพระอยู่ในสถานปฏิบัติธรรมเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าอาจเป็นอีกหนึ่งวิธีการในการให้ตนเองนั้นรอดพ้นจากการสืบสวนจับกุมตัวตามหมายจับในคดี
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะ ภ.จว.ลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. /หัวหน้าชุด PCT 5 กล่าวว่าขอแจ้งเตือนภัยไปยังผู้กระทำผิดอย่าทำศาสนาต้องมั่วหมอง โดยใช้การหลบหนีคดีมาบวชหรือปฏิบัติธรรม หากสำนึกผิดจริงๆต้องรับโทษทางกฏหมายให้เรียบร้อยก่อน จะไม่ทพให้ศาสนาเสียหาย และหากพบการกระทำผิดหรือขอความช่วยเหลือโปรดแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.