น12 มิถุนายน 2566 เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้รับการประสานจาก กองบังคับการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี่ 5 (บก.สอท.5)หรือ ตำรวจไซเบอร์ ให้ ตม.จว.สระแก้ว ช่วยสกัดจับนายอัษฎา อมรศยามล อายุ 37 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่แอบอ้างตัวเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงิน มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1745/2566 ลงวันที่ 7 มิ.ย.66 กระทำความผิดฐาน”ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น,ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
ซึ่งทาง บก.สอท.5 ได้สืบทราบว่านายอัษฏา ซึ่งหลบหนีหมายจับไปกบดานอยู่ในบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา และกำลังจะเดินทางกลับเข้าประเทศไทย ทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในวันนี้ หลังได้รับการแจ้งประสาน พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว, พ.ต.ท.จิรพัฒน์ เขียวศิริ สว.ส.ทท.สระแก้ว (สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวสระแก้ว) ,กองร้อยทหารพรานที่1302ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่13 พร้อมตำรวจไซเบอร์ นำหมายจับของศาลอาญาฯรอดักสกัดจับนายอัษฏา ที่บริเวณอาคาร ผู้โดยสารขาเข้าราชอาณาจักร ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบนายอัษฏา หน้าตาและตำหนิรูปพรรณ ตรงตามหมายจับของศาลอาญาฯเดินเท้าข้ามสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทยที่ อาคารโดยสารขาเข้าราชอาณาจักร ด่าน ตม. อรัญประเทศ เจ้าหน้าที่จึงนำหมาย ศาลฯเข้าควบคุมตัวนายอัษฏาฯไว้ได้
โดยนายอัษฏา รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จนท.จึงได้แจ้งการจับกุมให้ทางสำนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทราบตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย จากนั้นจึงคุมตัวนาย อัษฏาฯมาลงบันทึกประจำวัน ก่อนส่งตัวให้ตำรวจไซเบอร์ ควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.5 เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับของศาลอาญา ต่อไป.