ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่าน เพจสืบนครบาล IDMB ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายอุกกฤษ บางกรวย ชายสูงวัยบุคลิกภาพดูดีมาเสนอผู้เสียหายว่าสถานการณ์สงครามรัสเซีย กับยูเครน ทำให้ตนสามารถสั่งซื้อน้ำมันจากต่างประเทศได้ราคาดี มีผลตอบแทนร้อยละ 10 ต่อเดือน ผู้เสียหายจึงได้ทำสัญญา และร่วมลงทุนดังกล่าวกับผู้ต้องหา แต่ปรากฏว่าไม่มีการซื้อขายดังกล่าวจริง สร้างความเสียหาย 1 ล้าน 3 หมื่นบาท
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.นิทัสน์ มีทอง สว.กก.สส.4ฯ, ร.ต.อ.วีระพงษ์ คุณสมิตปัญญา รอง สว.กก.สส.4ฯ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายอุกกฤษ ผลาโชติ อายุ 59 ปี ที่อยู่ 89/133 หมู่ที่ 4 แขวงศาลากลาง เขตบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
ผู้ต้องหาตามหมายจับ
1.ศาลอาญามีนบุรี ที่ 407/2566 ลงวันที่ 3 เมษายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง, เรียกเงินคืน”
2. ศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.478/2566 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2566ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
สถานที่จับที่ บริเวณหน้าบ้านาเลขที่ 152/8 หมู่ที่ 9 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อประมาณเดือน ส.ค.65 ผู้แจ้งเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทแห่งหนึ่งผู้ต้องหาได้เข้ามาทำทีหลอกลวงผู้เสียหายโดยใช้กลอุบายว่า สามารถหาซื้อน้ำมันราคถูกจากต่างประเทศได้ เนื่องจากมีข่าวว่าจะเกิดสงครามรัสเซียกับยูเครนและจะได้ผลตอบแทนร้อยละ 10 ต่อเดือน ผู้เสียหายจึงได้ทำสัญญาร่วมธุรกิจในการค้าขายน้ำมัน ซึ่งพบว่าไม่มีการซื้อขายน้ำมันจากต่างประเทศอยู่จริง โดยผู้ต้องหาทำให้ผู้เสียหายเข้าใจว่า มีการซื้อขายน้ำมันจากต่างประเทศอยู่จริง เมื่อผู้เสียหายได้หลงเชื่อทำสัญญาแล้ว ผู้เสียหายเป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมในการซื้อขายน้ำมัน แต่ในความเป็นจริงคือ ผู้ต้องหาไม่เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายน้ำมันแต่อย่างใดทั้งสิ้น
รวมมูลค่าความเสียหาย 1,030,000 บาท
โดยในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การในชั้นนี้
นำตัวส่ง ศาลอาญามีนบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป