กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.)ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2บก.ทล. , พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.วิทยาพร พุฒิดำรง, ร.ต.ท.สมศักดิ์ ทรัพย์เล็ก, ร.ต.ต.จรัล ภู่สวัสดิ์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.ร่วมกันจับกุม นายอรรถพลฯ อายุ 30 ปีพร้อมตรวจยึดของกลาง
- รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู
- แผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดง จำนวน 2 แผ่น
สถานที่จับกุม บริเวณถนนพระราม 2 ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เวลาประมาณ 11.20 น. พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 10.52 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางหลวงได้รับการแจ้งเตือนของกล้องตรวจจับการกระทำความผิดจาก “ศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบ และเฝ้าระวังรถต้องสงสัย” Suspect Vehicle Command Center (SVCC) ว่ามีรถยนต์ต้องสงสัย ใช้ป้ายทะเบียนปลอมป้ายแดงผ่านบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าสกัดรถยนต์ดังกล่าวที่บริเวณ ถนนพระราม 2 ทล.35 กม.83+400 ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ต่อมาได้พบรถยนต์ตรงตามที่ได้รับแจ้งมาขับผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมจึงได้แสดงสัญญาณไฟเพื่อเรียกให้หยุดรถ จากการตรวจสอบทราบว่ามีนายอรรถพลฯ แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ดังกล่าว โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่และเอกสารสมุดคู่มือประจำทะเบียนป้ายแดงมาแสดง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตเห็นแผ่นป้ายทะเบียนที่ติดอยู่รถป้ายแดง ไม่มีลายน้ำ มาตุลีเทพบุตรขับรถเทียมม้า ตราประจำกรมการขนส่งทางบกในแผ่นป้าย เชื่อว่าเป็นแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ถือว่าผู้ขับขี่มีเจตนาที่จะปิดบังซ่อนเร้นแผ่นป้ายทะเบียนที่แท้จริงต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวพร้อมตรวจยึดรถยนต์และแผ่นป้ายทะเบียนไว้เป็นของกลาง และได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบควบคุมตัวนำส่ง พนักงานสอบสวนสภ.ปากท่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน ผู้ที่ใช้ปลอมป้ายทะเบียนปลอม สามารถได้รับโทษทางอาญา “มาตรา 264 ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้น ทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน”
ผู้ที่ใช้ป้ายทะเบียนปลอม สามารถได้รับโทษทางอาญา “มาตรา 268 ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 2678 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ” กล่าวคือจะได้รับโทษเท่ากับผู้ที่ปลอมเอกสารนั้นขึ้นมา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ