วันอังคาร, กันยายน 24, 2024
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่อัจฉริยะ พาตำรวจชลบุรีแห่ตบเท้าแจ้งความ ปปป.

Related Posts

อัจฉริยะ พาตำรวจชลบุรีแห่ตบเท้าแจ้งความ ปปป.

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 10 ก.ค.66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก.ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. อัจฉริยะพาตำรวจชลบุรีกว่า 10 นายเข้าแจ้งความเอาผิดรองสารวัตรจราจรนายหนึ่งในจังหวัดชลบุรีปั้นพยานหลักฐานเท็จออกหมายค้นหมายจับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์และการเข้าตรวจค้นบ้านในเป้กรณีเรียกรับเงิน 140 ล้านบาท ด้านตำรวจที่แจ้งความยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวแแต่ถูกเรียกกล่อมและบังคับให้เซ็นคำร้องขอหมาย

นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำตำรวจชลบุรีจำนวนเกือบ 10 นาย เข้าแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเอาผิดรองสารวัตรจราจรในชลบุรีนายหนึ่ง ในข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ,ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, และกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษอาญา จากกรณีที่ตำรวจในดังกล่าวมีการทำพยานหลักฐานเท็จกรณีการเข้าไปตรวจค้นเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ AK 47 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีการสร้างพยานหลักฐานและคำร้องการขอหมายค้นบ้านของผู้ต้องหาในเครือข่ายดังกล่าวและบ้านของรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีซึ่งขณะนั้นมีข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งต่อมาในภายหลังมีการตรวจสอบข้อมูลเอกสารและบุคคลที่เซ็นชื่อในหนังสือดังกล่าวพบว่าเป็นการบังคับและเกลี้ยกล่อมให้เซ็นเอกสาร

นอกจากนี้ยังมีอีกกรณีที่รองสารวัตรจราจรในดังกล่าวเข้าไปมีส่วนรู้เห็นและทำให้ต้องพาเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดเข้ามาแจ้งความในวันนี้คือ กรณีการเข้าไปตรวจค้นจับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ของนายเป้ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นกรณีการเรียกรับเงินผลประโยชน์โดยอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีและพวกจำนวน 120-140 ล้านบาทซึ่งเป็นข่าวโด่งดังที่ผ่านมา โดยรองสารวัตรนายดังกล่าวได้เข้าไปมีส่วนในการทำหนังสือและเอกสารหลักฐานปลอมเพื่อขอหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์ โดยมีการนำชื่อและลายมือของบุคคลอื่นเข้าไปเซ็นกำกับรับรองในหนังสือคำร้องขอหมายจับแต่ละฉบับ จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวทั้ง 2 กรณีรวมกว่า 10 นาย ก่อนที่จะมีการดำเนินคดีโดยคณะทำงานของพลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่เข้าไปดูแลคดีดังกล่าว

ทั้งนี้ 1 ในตำรวจที่เข้าแจ้งความได้เปิดใจว่า กรณีดังกล่าวตนเองได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากเพราะต้องเดินทางไปกลับระหว่างจังหวัดชลบุรีและกรุงเทพฯหลายครั้งและได้รับความเสียหายจากการกระทำของรองสารวัตรจราจรในดังกล่าว พักนี้ยืนยันว่าการออกหมายค้นและหมายจับของทั้งสองกรณีตนเองและพวกไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเรียกรับเงินหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับกรณีดังกล่าว แต่เป็นการเกลี้ยกล่อมและบังคับให้ลงลายมือชื่อในการเขียนคำร้องต่างๆ แต่บอกว่าเหตุใดตนเองจึงต้องถูกดำเนินคดีในเรื่องนี้และยินดีชี้แจงกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมด

นอกจากนี้นายอัจฉริยะยังกล่าวถึงกรณีที่ตนเองถูกนำภาพจากกล้องวงจรปิดภายในอาคารกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 HD โดยกล่าวหาว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องในการเรียกรับเงินของอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีจากนายเป้ โดยเป็นภาพขนาดตนเองเดินทางเข้าไปภายในตึกกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์และมีการพูดคุยกับเครือข่ายของขบวนการดังกล่าว โดยยืนยันว่าวันที่เกิดเหตุนั้นตนเองเดินทางไปเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีของเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ของดาราพ.พาน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของเว็บพนันออนไลน์ของนายเป้หรือการเข้าจับกุมของอดีตรองผู้การจังหวัดชลบุรี อีกทั้งช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายของนายเป้กับช่วงเวลาที่ตนเองเดินทางไปเป็นคนละช่วงเวลากัน

ทั้งนี้การนำภาพวงจรปิดดังกล่าวออกไปเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนมองว่าเป็นการเข้าข่ายความผิดละเมิดพรบ pdpa แล้วทำให้ตนเองเสียหายจึงเอาผิดกับผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและพวก พี่นำภาพของตนเองไปเผยแพร่ดังกล่าว ส่วนที่จะมีการดำเนินคดีเอาผิดกับผู้สื่อข่าวที่นำภาพวงจรปิดดังกล่าวไปเผยแพร่ หรือสถานีโทรทัศน์ที่เผยแพร่หรือไม่นั้นตนเองยืนยันว่าขณะนี้จะยังไม่ดำเนินคดีใดๆกับสื่อและผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว เพราะบอกว่าทางสถานีและผู้ประกาศในช่วงเวลาดังกล่าวได้ช่วยอ่านข่าวแก้ไขให้ในเวลาต่อมาแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวหญิงคนดังกล่าวมาดำเนินการเช่นนี้อีก

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้แจ้งทั้งหมดเสนอผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts