รัฐมนตรีเยอรมนียอมรับ มีความจำเป็นที่บริษัทต่าง ๆ ของเยอรมนีต้องลดความเสี่ยงในการพึ่งพาจีน แต่ไม่สนับสนุนการแยกเศรษฐกิจ เพราะนั่นหมายถึงทำให้ห่วงโซ่การผลิตระหว่างประเทศมีปัญหามากขึ้น
นางแอนนาเลนา แบร์บอค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (13 ก.ค.) ที่สถาบันเมอร์คาเตอร์เพื่อการศึกษาจีน (Mercator Institute for China Studies) ณ กรุงเบอร์ลิน ว่า กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของจีนมีเป้าหมายลดการพึ่งพาประเทศอื่น ๆ นั่นทำให้ห่วงโซ่การผลิตระหว่างประเทศต้องพึ่งพาจีนมากขึ้น เห็นได้จากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนได้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกโลหะสำคัญที่ใช้ผลิตชิป 2 ชนิด ถือเป็นสัญญาณเตือนยุโรปและสหรัฐในสงครามเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมชิปไฮเทค
“ในแง่ของนโยบายการต่างประเทศ จีนกำลังมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ของตนเองอย่างแน่วแน่มากขึ้น และพยายามใช้หลากหลายวิธีเพื่อจะเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์เดิมที่ยึดตามระเบียบระหว่างประเทศ ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อชาวยุโรปและความมั่นคงของโลก” นางแบร์บอค
นางแบร์บอค กล่าวอีกว่า ใครก็ตามที่ได้ฟังนโยบายของจีน จะเห็นถึงความเชื่อมั่นในตนเองของจีนซึ่งมีอิทธิพลต่อการพัฒนาโลกในอนาคต เราไม่จำเป็นต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดด้วยซ้ำเพื่อที่จะเห็นว่าจีนได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่สำหรับเยอรมนี จีนยังคงเป็นพันธมิตรและคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ เราเห็นด้วยว่ามีความจำเร่งด่วนที่บริษัทต่าง ๆ ของเยอรมันจะต้องลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาจีน แต่ไม่สนับสนุนการแยกเศรษฐกิจ
ขณะที่ สถานทูตจีนในเยอรมนีระบุผ่านแถลงการณ์ว่า “จีนหวังว่า เยอรมนีจะมองการพัฒนาของจีนอย่างมีเหตุผล รอบคอบ และเป็นกลาง ความท้าทายและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เยอรมนีกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะจีน เพราะจีนคือพันธมิตร ไม่ใช่คู่แข่ง”