กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้สืบสวนและปราบปรามมิจฉาชีพ โดยเฉพาะการฉ้อโกงหลอกขายสินค้าทางสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน อย่างจริงจัง และเด็ดขาด สืบสวนให้ถึงต้นตอของขบวนการ แก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากการสูญเสียทรัพย์สินจากการถูกหลอกขายสินค้าและการหลอกโอนเงินเป็นจำนวนมาก
สืบเนื่องจากได้มีกลุ่มคนร้ายจัดตั้งระบบอุปกรณ์โทรศัพท์และใช้การสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่ายอินเตอร์เน็ตด้วยวิธีการสุ่มหมายเลขโทรศัพท์ของประชาชนแล้วโทรศัพท์ติดต่อไปยังประชาชนทั่วไป โดยแจ้งแก่ผู้ได้รับการติดต่อด้วยข้อความอันเป็นเท็จต่าง ๆ ลักษณะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท DHL บริษัทขนส่งด่วนระหว่างประเทศ หลอกลวงว่ามีพัสดุที่ส่งไปยังประเทศจีน โดยแจ้งว่ากล่องพัสดุถูกตรวจสอบพบว่าภายในกล่องมีสิ่งของผิดกฎหมาย เกี่ยวข้องกับเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารของผู้เสียหายที่เป็นผู้ส่งพัสดุ และมีส่วนพัวพันกับคดีฟอกเงิน โดยแจ้งว่าหากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายทุกบัญชี โดยคนร้ายได้ขอ LINE ID ของผู้เสียหายและทำการเพิ่มเพื่อน โดยปรากฏชื่อโปรไฟล์ไลน์ของคนร้ายชื่อ “สภ.เมืองเชียงใหม่” โดยคนร้ายได้ใช้กลอุบายหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อโอนเงินในบัญชีธนาคารไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้ายผ่านระบบแอพพลิเคชั่นของธนาคารในโทรศัพท์มือถือ เป็นจำนวน 20 ครั้ง เป็นเงิน 10,150,000 บาท (สิบล้านหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ในภายหลังผู้เสียหาย รู้ว่าถูกหลอกให้โอนเงิน จึงได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายและติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ต่อมา วันที่ 14 ก.ค.66 หน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พักอาศัยอยู่หอพัก บริเวณถนนศิลปาคม หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จว.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ต.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, ร.ต.อ.อาณัติ เข็มทอง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมทีมชุดจับกุม กระจายกำลังออกค้นหาพบ นายทัพพสาร อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ปรากฏตัวอยู่ บริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาสายเดิมอเวนิว หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง
จว.หนองคาย จึงได้ทำการจับกุมพร้อมแจ้งให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชนฯ ” จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และนอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหายังมีหมายจับติดตัวในความผิดฐานฉ้อโกงฯ อีกกว่า 7 หมายจับ
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.พงศ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ ผกก.วิเคราะข่าวฯ บก.สอท.3 สั่งการ พ.ต.ท.ภาคภูมิ บุญเจริญพานิช รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ต.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, ร.ต.อ.อาณัติ เข็มทอง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม