วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่ตำรวจไซเบอร์ จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้าง สภ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมตุ๋นเหยื่อโอนเงิน 20 ครั้ง สูญกว่า 10 ล้าน

Related Posts

ตำรวจไซเบอร์ จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้าง สภ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมตุ๋นเหยื่อโอนเงิน 20 ครั้ง สูญกว่า 10 ล้าน

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้สืบสวนและปราบปรามมิจฉาชีพ โดยเฉพาะการฉ้อโกงหลอกขายสินค้าทางสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน อย่างจริงจัง และเด็ดขาด สืบสวนให้ถึงต้นตอของขบวนการ แก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากการสูญเสียทรัพย์สินจากการถูกหลอกขายสินค้าและการหลอกโอนเงินเป็นจำนวนมาก


สืบเนื่องจากได้มีกลุ่มคนร้ายจัดตั้งระบบอุปกรณ์โทรศัพท์และใช้การสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่ายอินเตอร์เน็ตด้วยวิธีการสุ่มหมายเลขโทรศัพท์ของประชาชนแล้วโทรศัพท์ติดต่อไปยังประชาชนทั่วไป โดยแจ้งแก่ผู้ได้รับการติดต่อด้วยข้อความอันเป็นเท็จต่าง ๆ ลักษณะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท DHL บริษัทขนส่งด่วนระหว่างประเทศ หลอกลวงว่ามีพัสดุที่ส่งไปยังประเทศจีน โดยแจ้งว่ากล่องพัสดุถูกตรวจสอบพบว่าภายในกล่องมีสิ่งของผิดกฎหมาย เกี่ยวข้องกับเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารของผู้เสียหายที่เป็นผู้ส่งพัสดุ และมีส่วนพัวพันกับคดีฟอกเงิน โดยแจ้งว่าหากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายทุกบัญชี โดยคนร้ายได้ขอ LINE ID ของผู้เสียหายและทำการเพิ่มเพื่อน โดยปรากฏชื่อโปรไฟล์ไลน์ของคนร้ายชื่อ “สภ.เมืองเชียงใหม่” โดยคนร้ายได้ใช้กลอุบายหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อโอนเงินในบัญชีธนาคารไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้ายผ่านระบบแอพพลิเคชั่นของธนาคารในโทรศัพท์มือถือ เป็นจำนวน 20 ครั้ง เป็นเงิน 10,150,000 บาท (สิบล้านหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ในภายหลังผู้เสียหาย รู้ว่าถูกหลอกให้โอนเงิน จึงได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายและติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด


ต่อมา วันที่ 14 ก.ค.66 หน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พักอาศัยอยู่หอพัก บริเวณถนนศิลปาคม หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จว.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ต.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, ร.ต.อ.อาณัติ เข็มทอง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมทีมชุดจับกุม กระจายกำลังออกค้นหาพบ นายทัพพสาร อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ปรากฏตัวอยู่ บริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาสายเดิมอเวนิว หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง
จว.หนองคาย จึงได้ทำการจับกุมพร้อมแจ้งให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชนฯ ” จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และนอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหายังมีหมายจับติดตัวในความผิดฐานฉ้อโกงฯ อีกกว่า 7 หมายจับ


ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.พงศ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ ผกก.วิเคราะข่าวฯ บก.สอท.3 สั่งการ พ.ต.ท.ภาคภูมิ บุญเจริญพานิช รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ต.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, ร.ต.อ.อาณัติ เข็มทอง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts