วันที่ 17 ก.ค. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนวงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำข้อมูลมาร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.)ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ดำเนินคดีกับรองผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4ในฐานะประธานคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ตนเองร้องเรียนให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็กในจังหวัดอุบลราชธานีเรียกรับเงินจากแรงงานชาวลาวประเทศที่เดินทางเข้าออกประเทศไทย 300 -10,000 บาท แต่คณะกรรมการกลับสรุปแล้วว่าไม่พบการกระทำความผิด ทั้งที่ยังไม่ได้สอบปากคำพยานฝ่ายตนเอง
นายอัจฉริยะเปิดเผยว่า คดีนี้ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เรียกให้ตนเองเข้าไปให้ข้อมูลในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมา ประธานคณะกรรมการได้สรุปสำนวนผลการตรวจสอบ และการสอบปากคำพยานแรงงานชาวลาวกว่า 30 ปากแล้ว ว่าไม่พบการกระทำผิดตามที่ถูกนายอัจฉริยะร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยที่ยังไม่ได้มีการสอบปากคำตนเองและพยานที่ตนเองได้เตรียมไว้กว่า 50 ปากแต่อย่างใด
นอกจากนี้ พยานทั้งสองปากที่ตนเองได้ส่งให้กับคณะกรรมการตรวจสอบเข้าข้อเท็จจริงกลับถูกข่มขู่ ว่าหากให้การว่าผู้กำกับและเจ้าหน้าที่ด่านช่องเม็กเรียกรับเงินจริง จะไม่อนุญาตให้เข้าประเทศอีก จึงต้องแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บังคับการคนดังกล่าว ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 และสร้างหลักฐานเท็จ
