วันเสาร์, พฤษภาคม 18, 2024
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่สืบ น. จับ "สมชาย-บ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว" หลอกลงทุน “แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ”  ผู้เสียหายเพียบ

Related Posts

สืบ น. จับ “สมชาย-บ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว” หลอกลงทุน “แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ”  ผู้เสียหายเพียบ

ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น.ได้รับแจ้งเบาะแสคนร้ายใช้”บ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว” ซึ่งลักษณะคล้ายกับการเล่นแชร์ทั่วไป ต่อมาได้สร้างความสัมพันธ์กับคนในบ้านออมเงิน โดยมีการใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Autcharaphan Kanthawong” แอดไปหาผู้ที่ร่วมลงทุนในบ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว จากนั้น ได้มีการชักชวนผ่านโปรแกรมแชท Messenger ให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และ ให้ผลตอบแทนสูง แล้วหลบหนีไป มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.ต.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3/1ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสมชาย กันทะวงศ์ อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 158/2565 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2565 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน”“

โดยเมื่อประมาณ พ.ศ.2563 นายสมชาย และ น.ส.อัจฉราพรรณ (ลูกสาว) ได้ร่วมกันเปิดกลุ่มไลน์ “บ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว” ซึ่งลักษณะคล้ายกับการเล่นแชร์ทั่วไป ต่อมา น.ส.อัจฉราพรรณ ได้สร้างความสัมพันธ์กับคนในบ้านออมเงิน โดยมีการใช้ Facebook ชื่อ “Autcharaphan Kanthawong” แอดไปหาผู้ที่ร่วมลงทุนในบ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว จากนั้น ได้มีการชักชวนผ่านโปรแกรมแชท Messenger ให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และ ให้ผลตอบแทนสูง ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้ร่วมลงทุนกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร นายสมชาย และน.ส.อัจฉราพรรณ แต่ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน อ้างกับกลุ่มผู้เสียหายว่า “เงินถูกธนาคารตรวจสอบ” ต้องเข้าไปชี้แจงที่ธนาคาร ถ้าสามารถนำเงินออกมาได้แล้ว จะนำมาให้กับกลุ่มผู้เสียหาย สุดท้าย รอมา 2 ปี ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับเงินคืนและไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ กลุ่มผู้เสียหายมีทั้งคนในประเทศไทย และคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ รวมความเสียหายทั้งหมดกว่า 20 ล้านบาท

จากการสอบถาม นายสมชาย ผู้ต้องหา อ้างว่า น.ส.อัจฉราพรรณ (ลูกสาว) ได้ไปทำงานอยู่ต่างประเทศ ต่อมา ลูกสาวบอกว่า จะเริ่มทำธุรกิจ เป็นการประมูลสินค้า เมื่อได้มาแล้วก็จะนำออกมาขาย ซึ่งจะได้กำไรเยอะกว่าการค้าขายทั่วไป แต่ต้องหาคนมาร่วมลงทุนก่อน และขอใช้บัญชีของนายสมชาย ในการรับโอนเงินคนที่จะร่วมลงทุนและอยู่ในประเทศไทย เมื่อมีเงินโอนเข้ามาแล้ว ลูกสาวจะบอกอีกครั้งว่าให้โอนเงินไปที่ไหนต่อ ซึ่งนายสมชายจะได้ส่วนแบ่งจากเงินที่โอนเข้ามา ต่อมา ลูกสาวบอกว่าเงินที่จะนำมาให้ผู้เสียหาย ถูก ป.ป.ง. ตรวจสอบ จนไม่สามารถนำเงินออกมาแจกจ่ายได้ ให้รอก่อน และเมื่อนายสมชาย ทราบว่าตนเองถูกดำเนินคดีจึงได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ กับภรรยา ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร และไม่ออกจากบ้าน เนื่องจากกลัวว่าจะถูกจับกุมอีกครั้ง

จากการตรวจสอบข้อมูลจากฐานข้อมูล ตร.พบว่า นายสมชาย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสตูล ที่ 293/2565 ลงวันที่ 19 กันยายน 2565 ซึ่งกระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” ก่อนจะคุมตัวนำส่งศาลอาญาธนบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts