จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.66 ที่ผ่านมา นายฮานส์ ปีเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวเยอรมันหายตัวไป ก่อนจะพบถูกฆ่าหันศพ ในพื้นที่ สภ.หนองปรือ ภ.จว.ซลบุรี ซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนประชาชน และสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในคดีดังกล่าวได้จำนวน 4 ราย หนึ่งในนั้นคือ นายโอลาฟ ชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่ม OUTLAWS พัทยา ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.สืบสวนขยายผลเกี่ยวกับกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุริจิต ชิงวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.2 และ ภ.จว.ชลบุรี สืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ให้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มดังกล่าว และหากพบมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีทันที เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
จากการสืบสวนของ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 ทราบว่า กลุ่มแก๊งดังกล่าว เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการขับรถจักรยานยนต์คันใหญ่ มีการรวมตัวกันจากบุคคลหลากหลายสัญชาติ และจะมีการเช่าสถานที่เพื่อใช้นัตรวมตัวกันทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีหลายจุดอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ก.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2, กองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี, ตำรวจท่องเที่ยวชลบุรี, สถ.เมืองพัทยา, สภ.หนองปรือ, สภ.นาจอมเทียน และ นปส.พัทยา ได้ร่วมบูรณาการปิดล้อมตรวจค้นจุดต่างๆ
ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม OUTLAWS พัทยา ทั้งหมด 8 จุด ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือ นายโทมัส จินเนอร์ สัญชาติออสเตรีย โดยมีข้อมูลว่า บุคคลดังกล่าวแสดงตนเป็นหัวหน้ากลุ่ม OUTLAWS พัทยา พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 55/57 Meadows ม.17 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจคันและตรวจยึดสิ่งของภายในบ้านหลังดังกล่าว เช่น รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HARLEY DAVIDSON และ อุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับ OUTLAWS ภายในบ้านหลังดังกล่าว เพื่อนำมาตรวจสอบ
ที้งนี้ นายโทมัส รับว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์ OUTLAWS พัทยา จริง แต่ได้ถอนตัวแล้วนับแต่เกิดเหตุฆาตกรรม ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้าน พบว่า นายโทมัส เตรียมเก็บของทำการย้ายหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้ตรวจสอบข้อมูลของ นายโทมัส ยังพบอีกว่า มีหมายจับคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ จึงได้จับกุมตัว นายโทมัส ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในส่วนของเป้าหมายอื่นๆ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ มีผลการปฏิบัติดังนี้บ้านเลขที่ 21/204 หมู่บ้านโชคชัยการ์เด้นโฮม 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นของ นายแดนนี่ โรห์ด สัญชาติเยอรมัน โดยมีการตรวจยึด รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า เบียน 1 กญ 6335 กาพสินธุ์ จำนวน 1 คัน อีกทั้งมีการตรวจสอบหาสารเสพติดในร่างกายซึ่งเบื้องต้นพบสารติดในร่างกายของ นายแดนนี่ โดยจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.ชลบุรี นำกำลังตำรวจกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 ได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จำนวน 2 ราย คือนายโธมัส โทธ สัญชาติอเมริกัน และ นายธีโอดอร์ มาติสสัญชาติสวิส เนื่องจาก หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ มาเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม จำนวนทั้งสิ้น 4 คัน
ดังนี้ รถจักรยายนต์ยี่ห้อ harley davidson รุ่น V rod muscle ทะเบียน 2ขง-9776 กรุงเทพมหานคร รถจักรยายนต์ยี่ห้อ harley davidson รุ่น Roadking ปี09 ทะเบียน บกจ 111 กรุงเทพมหานคร รถจักรยายนต์ยี่ห้อ harley davidson รุ่น V rod custom ทะเบียน จธฉ-469 ชลบุรี รถจักรยายนต์ยี่ห้อ harley davidson รุ่น Panamerica ทะเบียน 4ขก-7728 กรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากกรณีคสฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน พบว่ามีการรวมกลุ่มกันของกลุ่มนอกกฎหมายซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหลายประเภท เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ เป็นตัน เบื้องตันได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ2, สตม. และท่องเที่ยว ร่วมกันตรวจสอบกลุ่ม OUTLAWS และกลุ่มแก็งค์อื่นๆ ที่มีความสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำผิดในราชอาณาจักร สำหรับกลุ่ม OUTL AWS เบื้องต้นได้มีการจับกุมหัวหน้าแก๊งค์ซึ่งมีหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชนของ สภ.เมืองพัทยา
รวมทั้งสมาชิกที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเพิกถอนวีซ่าของสมาชิกที่พบว่ามีความสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำผิด จากนี้จะได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจตราและสอดส่องกลุ่มเหล่านี้ หากพบการกระทำใด จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชน หากพบการกระทำผิดของกลุ่มสามารณ์แจ้งเบาะแสไต้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือตำรวจท่องเที่ยว 1155 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
