จากกรณีเมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นางสรารัตน์ฯ หรือแอม ดำเนินคดีในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ และได้ขยายผลดำเนินคดีเพิ่มเติมได้อีกรวมจำนวน 15 คดี จากการวางแผนฆ่าและพยายามฆ่าผู้เสียหาย เพื่อเป็นการล้างหนี้หรือประสงค์ต่อทรัพย์สิน โดยหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แอมก่อเหตุ เกิดจากการติดหนี้การพนันออนไลน์เป็นจำนวนมาก ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต..สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ขยายผลกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองปราบปราม สืบสวนขยายผลและดำเนินคดีกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ที่นางสรารัตน์ฯ และ พ.ต.ท.วิฑูรย์ฯ ผู้เป็นสามีได้เข้าเล่นจนติดหนี้จำนวนมากดังกล่าว
จากการสืบสวนทราบว่า เว็บไซต์การพนันออนไลน์ดังกล่าวคือ FUN88 ซึ่งนางแอมและสามีได้นำเงินเข้าเล่น ในเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าวหมุนเวียนกว่า 93 ล้านบาท จึงได้สืบสวนขยายผลถึงเครือข่ายผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ดังกล่าว และได้ขออนุมัติหมายจับดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องรวมมากถึง 21 คน สามารถติดตามจับกุมได้แล้ว 13 คน ถูกจำคุกในคดีอื่นจำนวน 2 คน และพบเสียชีวิตแล้ว 1 คน ยังเหลือหลบหนีอีกจำนวน 6 คน โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือ เข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกสโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้เปิดปฏิบัติการเข้าค้นเป้าหมาย จำนวน 22 จุด ใน 1 1 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี จันทบุรี เชียงใหม่ เชียงราย กาญจนบุรี สงขลา ตรัง และขอนแก่น ผลการปฏิบัติสามารถตรวจยึดของกลางได้รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ประกอบไปด้วย รถยนต์หรู เครื่องประดับและนาฬิกา บัญชีธนาคาร กระเป๋าแบรนด์เนม และบัญชีคริปโตเคอเรนซี่ เป็นต้น จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้สรุปสำนวนดำเนินคดีกับนางสรารัตน์ฯ หรือแอม ไปแล้วจำนวน 15 คดี ซึ่งเป็นคดีประวัติศาสตร์ของไทยอีกหนึ่งคดี ซึ่งหนึ่งในสาเหตุของการก่อเหตุดังกล่าวมาจากการติดหนี้การพนันออนไลน์ จึงได้สั่งการให้กองปราบปรามดำเนินการขยายผลดำเนินคดีกับเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์ดังกล่าว ซึ่งสามารถดำเนินคดีกับเครือข่ายได้จำนวนถึง 21 คน จากนั้นได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นจุดเป้าหมายมากถึง 22 จุด ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 13 คน และตรวจยึดทรัพย์สินได้รวมมูลค่ามากกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้จะตรวจยึดตามมาตรการกฎหมายฟอกเงินต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ ก็จะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ครบทุกราย