เวลา 14.00 น.วันที่ 3 ส.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จตุจักร กทม.
นายชูศักดิ์ อาทรวรางกูร หรือ ทนายแชมป์ พาผู้เสียหายจำนวน 10 ราย ประกอบด้วยผู้ค้าออนไลน์ เช่น เครื่องสำอางค์ , สายจูงสุนัข ไปจนถึง อาจารย์สอนด้านการเกษตร เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม แจ้งความกรณีที่ถูก บริษัทโฆษณาออนไลน์ชื่อดังย่านลาดพร้าว ฉ้อโกง ด้วยการหลอกลงทุนลักษณะให้ซื้อเเพคเกจ โดยหลอกว่า บริษัทฯ มีคอนแทคกับสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก สามารถยิงแอดโฆษณาในราคาที่ถูกกว่า
โดยบริษัทดังกล่าวใช้บุคคลมีชื่อเสียง นักร้องชื่อดัง มาเป็นพรีเซนเตอร์ ภายหลังได้เงินผู้เสียหายไปเเต่ไม่สามารถทำได้ ซ้ำยังหลอกผู้เสียหายให้ไปชักชวนเพื่อนฝูงญาติสนิทมิตรสหาย มาซื้อแอดเพิ่ม เข้าลักษณะคล้ายเป็นลูกโซ่ เเถมยังจัดโปรฯ แพคเก็จพาเที่ยวต่างประเทศอีก เบื้องต้นคดีนี้พบว่ามีผู้เสียหายกว่า 40 ราย มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
นายชูศักดิ์ ทนายแชมป์ เปิดเผยว่า บริษัทดังกล่าว ฉ้อโกงประชาชน ด้วยการหลอกผู้เสียหายที่ต้องการความช่วยเหลือด้านโปรโมทสินค้าและบริการทางสื่อสังคมออนไลน์ ให้ลงทุนซื้อเเพคเกจ 5 หมื่น ถึง 2 แสนบาท
โดยหลอกลวงว่า บริษัทฯ มีคอนแทคกับสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก สามารถผลิตคลิป สื่อโซเชียลฯ ด้วยทีมงานมืออาชีพ ยิงแอดโฆษณา เปิดการมองเห็น ได้ในราคาที่ถูกกว่าที่อื่น
แต่เมื่อผู้เสียหายซื้อแพคเกจแล้ว ปรากฏว่า บริษัทฯ ดังกล่าวไม่ได้ทำคลิปให้, ไม่ยิงแอด, ไม่ได้เปิดการมองให้เห็นแต่อย่างใด
ติดต่อทวงเงินคืนก็ไม่ให้ก่อนปิดการสื่อสาร ล่าสุดพบไปเปิดบริษัทใหม่หลอกลวงอีก เกรงว่าจะมีคนหลงผิดจึงต้องพากันมาแจ้งความกองปราบฯ ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นางจิราพร ผู้เสียหายกล่าวว่าตนมีอาชีพ อินฟลูเอนเซอร์ ต้องการสร้างตัวตนเพื่อเราจะได้ขายสินค้าอะไรก็ได้และโฆษณา ซึ่งที่คุยกันมาเห็นการถ่ายทำต่างๆ เห็นว่าตรงนี้ราคาไม่แพงด้วยและน่าเชื่อถือ ทำให้มั่นใจด้วยเพราะบริษัทบอกว่าได้ร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศด้วยโดยส่วนตัวโดนไปประมาณ 1.6 เเสนบาท
นาย ปฏิยัตต์ อาชีพอาจารย์สอนเกี่ยวกับการเกษตรเเละผู้ขายสินค้าการเกษตรผู้เสียหายกล่าวว่า ต้นไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำสื่อโซเชียลและได้ถูกชักชวนจากเพื่อน ให้เข้าไปดูบริษัทที่ทำคือสื่อโฆษณาก็ได้เห็นผลงาน ก็ดูน่าเชื่อถือ เเพ็กเกจเเรกคือการถ่ายทำโฆษณาเเละเปิดการมองเห็นที่1 ล้านวิวในราคา2เเสนบาทเเละหลังจากนั้นก็ได้มีการเซ็นสัญญา ระหว่างนั้นก็มีการขายโดยบอกว่าตนเป็นอาจารย์สามารถจัดรายการได้ก็เลยเสนอในเรื่องของสตูดิโอเป็นสาขาเฟรนไชส์ ตนก็สนใจเพราะอ้างว่าสามารถเปิดการมองเห็นทีละเเสนคน เเละบริษัทมีการคอนเเทคกับบริษัทยักษ์ใหญ่สื่อออนไลน์จึงตัดสินใจซื้อเฟรนไชส์อีก9 เเสนบาท หลังจากนั้นก็ติดต่อให้ตนไปถ่าย เเต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย สุดท้ายเสียไป1.1ล้านบาท เเต่ถึงเวลาบริษัทก็ไม่ได้ทำอะไร เอาเงินไปเเล้วก็เชิดเงินผลัดวันไปเรื่อยเเละปิดเบอร์โทรศัพย์หนี จริงๆที่มาเเจ้งความวันนี้ก็ไม่ได้หวังว่าจะได้เงินคืน เเต่ไม่อยากให้ไปหลอกลวงคนอื่น เพราะได้ข่าวว่าเเอบไปเปิดบริษัทขึ้นมาใหม่อีก2ที่ โดยใช้วิธีรูปเเบบเดิมๆ ก็อยากบอกให้คนที่จะจ้างทำโฆษณาควรต้งวพิจารณาบริษัทที่เราจ้างให้ดีๆ เคสนี้ตนหวังให้ดำเนินคดีถึงที่สุดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
น.ส.อาณดา ผู้เสียหาย กล่าวว่าตนเป็นคุณครูสายอาชีพสอนนวดหน้า อยากสร้างตัวตนเพื่อโปรโมทอาชีพที่หลงเชื่อเข้ามาซื้อเเพ็กเกจเพราะว่าตอนเปิดตัวบริษัทมีทั้งสื่อต่างๆที่รำเสนอ ที่ตั้งสตูดิโอมีความสมบูรณ์เเบบ เเต่สิ่งที่เราได้รับมันกลับกันมาก ตนไม่ได้อะไรสักอย่างตามที่สัญญา การที่ตนลงทุนไปก็ไม่อยากให้ใครต้องมาโดนเเบบตน
“ไม่ว่าจำนวนเงินจะมากหรือน้อยเเต่ทุกคนมีความฝันทำเเบบนี้กับประชาชนมันเป็นการหลอกลวงชัดๆ เขาบอกสามารถทำให้เรามีตัวตนในสังคม เขาบอกเขามีคอนเนคชั่นกับติ๊กต๊อกกับเฟซบุ๊ค สิ่งที่เขาโชว์เรามันสวยงามมาก เราทำเองไม่ได้เเน่ การเปิดตัวบริษัทมีสื่อมวลมาสัมภาษณ์ มีคนดังมาเราเลยลงทุนซื้อ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับแจ้ง สอบปากคำผู้เสียหายแล้วดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
//////////////