สืบเนื่องจากผู้เสียหายต้องการกู้เงิน จึงลองค้นหาแหล่งเงินกู้ผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยโทรศัพท์มือถือ ต่อมาพบมิจฉาชีพอ้างเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อ สามารถกู้ง่าย ให้ดอกเบี้ยต่ำ จึงลองสมัครโดยการสนทนาผ่านแอปไลน์ และได้กดลิงก์กรอกข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน โดยผู้เสียหายได้ทำสัญญากู้เงินกับคนร้ายในวงเงิน 50,000 บาท
ต่อมา คนร้ายอ้างว่าการทำสินเชื่อดังกล่าว จำเป็นต้องจ่ายค่าทำสัญญาเงินกู้และค่าค้ำประกัน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินให้ไป จากนั้น มิจฉาชีพก็อ้างว่าต้องจ่ายค่าปลดล็อกบัญชี และยังอ้างให้ชำระค่าบริการอื่นๆ เพิ่มอีก มิเช่นนั้นจะไม่สามารถอนุมัติเงินกู้ได้ จึงได้โอนเงินไปเพิ่มเติม รวม 7 ครั้ง ผ่าน 4 บัญชีธนาคาร รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 120,142 บาท สุดท้ายก็ไม่ได้รับเงินกู้ดังกล่าว จึงเชื่อว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงแล้วและได้แจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์สืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว นำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาแล้วหลายราย
ต่อมา พ.ต.อ.ศุภกร ธัญญกรรม ผกก.1 บก.สอท.5 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.หญิง ธารา เมืองแก้ว พร้อมชุดสืบสวนเข้าจุบกุมตัว น.ส.ปิยวรรณ อายุ 33 ปี ชาวสงขลา ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิว เตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยควบคุมตัวได้บริเวณหอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป