วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
หน้าแรกการเมือง “ปู-ยิ่งลักษณ์” อดีตนายกฯ ตอบไลฟ์สดเปิดใจครั้งแรก

Related Posts

 “ปู-ยิ่งลักษณ์” อดีตนายกฯ ตอบไลฟ์สดเปิดใจครั้งแรก

“อดีตนายกฯ ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ให้สัมภาษณ์ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวในหัวข้อ #เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศนานหลายปี เชิญชวนประชาชนมาร่วมพูดคุยกัน ให้หายคิดถึง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตร๊หญิงคนเดียวของประเทศไทย ได้ไลฟ์สดให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว The Reporters  เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565  ผ่านเฟซบุ๊ก : Yhingluck Shinawatra FB ที่ก่อนหน้านั้น ระบุข้อความว่า ‘10โมงเช้าวันนี้ อย่าลืมมาคุยกันนะคะ…อีก 1ชั่วโง พบกันใน Facebook Live #เป็นอย่างไรกันบ้างคะ’

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน และ ข้อความพูดว่า "#เป็นอย่างไร นอย ย่างไร ไร # #เป็น กัน กันบ้างคะ บ้าง"

โดย นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ หรือ กาย พิธีกรเป็นผู้ป้อนคำถามเริ่มว่า ที่เลือกเพลงมาทำเอ็มวีเพลง “เพลงของเธอ”ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นคนขับร้อง มาเปิดก่อนเข้ารายการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวว่าที่เลือกเพลงนี้เพราะมีความหมายดี  สื่อความรู้สึกในใจได้ชัดเจน ก็เลยพยายามที่จะร้องเพื่อให้รู้ว่า นั่นคือเนื้อหาและความจริงใจที่เราอยากจะบอกพี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจริงๆแล้วหลายคนทราบว่าท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็ชอบร้องเพลง ไม่เคยเห็นตอนร้องสมัยเป็นนายกฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หัวเราะพร้อมบอกว่า ชอบฟัง แต่ชอบร้องตามนักร้อง ไม่ชอบร้องเอง แต่เพลงนี้เพราะอยู่แล้ว แต่ฟังเสียงตนอาจจะขัดหูอยู่บ้าง ก็ขออนุญาตแฟนคลับ ฟังความหมายเอานะ ความหมายดี

ผู้สื่อข่าวรวบรวมคำถามที่ผ่านทางโซเชียลมีเดียมา ถามว่าอดีตนายกฯหญิงไทยเคยเข้าไปดูหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ติดตามดูตลอด เข้าไปดูตามโซเชียลมีเดีย ในเฟซบุ๊ก ที่มีการโพสต์แต่ขออภัยแฟนคลับว่าอาจจะตอบไม่หมด แต่ได้เห็นได้ฝากความคิดถึงกันและได้รับรูปหัวใจเยอะเลย โดยเฉพาะเดือนแห่งความรักก็ได้รับรูปหัวใจ รู้สึกว่าคนเราเหมือนกับไม่ได้เจอกันมานาน ก็คงอยากจะถามไถ่ความรู้สึกเป็นอย่างไรกันบ้าง นั่นคือที่ของคำว่า แฮชแท็กเป็นอย่างไรกกันบ้าง คะ ตนก็อยากจะถามว่าเป็นยังไงกันบ้าง เหมือนว่าคนเรา เรารู้จักกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ได้เจอกันมานาน ก็อยากรู้ว่าจะเจอภาวะทุกข์ หรือว่าช่วงไหนมีความสุข เราติดตามข่าวอยู่แล้ว แต่บางทีก็อยากจะได้ยินและสัมผัสโดยตรงว่าความรู้สึกนั้นมันเป็นอย่างไรกันบ้าง

ถามว่าตั้งแต่มาอาศัยอยู่ในต่างประเทศเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ก็เกือบ 4 ปี วันเวลาผ่านไปเร็วมาก เมื่อถามว่าสบายดีหรือไม่ อดีตนายกฯหญิงตอบว่า จะบอกว่าสบายดี มันก็คงไม่ใช่ คนเราจากบ้านเกิด จากสิ่งที่เคยทำมาทุกวัน ก็มาจู่ ๆก็ว่างงาน ได้กลับมาอยู่ห่างบ้านห่างเมือง ไม่ได้เจอพี่น้องเพื่อนฝูง มันก็คิดถึง แต่เราก็คงต้องทำอย่างไรให้เราดำรงอยู่ให้ได้เพราะว่าจำคำสอนของพี่โทนี่(ทักษิณ ชินวัตร) ว่า น้องเวลาเรามาอยู่นี่นะ เราต้องรักษาสุขภาพทำตัวเองให้มีความสุขเพื่อคนที่รักของเราจะได้ไม่ห่วง นั่นคือสิ่งแรกที่ต้องทำ มีความสุขนะอยู่สบาย แต่ใจยังรักห่วงใย

ถามว่าอดีตนายกฯทักษิณ ติดโควิดไปแล้ว 2 รอบ ตัวนายกฯยิ่งลักษณ์เคยติดหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ถือว่าโชคดีนะตอนนี้ต้องเคาะๆก่อน พี่โทนี่ก็ทันสมัยนะ อะไรมาก็รับไปก่อนหมดเลย แต่ว่าก็ไปเย่ยมเหมือนกัน แต่โชคดีที่ตัวเองรอด ทานอาหารให้มีคุณภาพ ออกกำลังกาย รักษาความสะอาด ใส่หน้ากาก ก็เลยรอด ถือว่าโชคดี ขอให้ทุกคนรอดด้วยนะ วันนี้ก็ท่องขอให้เรารอด สำหรับคนที่เป็นก็ไม่ต้องห่วงนะ เพราะเดี๋ยวนี้อาการมันเบาไปเยอะแล้ว จากที่ทุกคนมีวัคซีน ต่างประเทศเขาก็เหมือนกับทำตัวชิลชิล เหมือนปกติเลย ผู้สื่อข่าวกล่าวว่าคนรอบตัวติดเยอะเลย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงพูดว่า เราไม่ติดนี่กลายเป็นคนหมู่น้อยเลย ทำใจวันหนึ่งติดก็ติด แต่ไม่เป็นไรทำร่างกายให้แข็งแรงไว้ก่อน เวลาติดอาการไม่มีอะไรเหมือนหวัดทั่วไป ต่อคำถามว่าฉีดวัคซีนไปกี่เข็มแล้ว อดีตนายกฯตอบว่าฉีดซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ไฟเซอร์ 2 เข็ม แต่อย่าไปคาดว่าจะไม่ติด

ต่อคำถามเรื่องอาหารการกิน น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่าเมื่อก่อนได้กินอาหารไทยบ่อยมาก มีคนมาเยี่ยมนำมาฝาก แต่ช่วงโควิดไม่มีคนมาเยี่ยม ก็ยุ่ง สองคนพี่น้องก็เลยไปเดินสำรวจซุปเปอร์มาร์เก็ตว่ามีอะไรเอามาทำได้บ้าง ซึ่งในบรรดาพี่น้องผู้ชายทำกับข้าวเก่ง ยกเว้นพี่สาวคนเดียวที่ทำเก่งคนเดียว พี่ชายก็เป็นคนทำให้น้องสาวทาน ส่วนคำถามว่ามีร้านอาหารไทยประจำที่เคยไปนั่งตอนอยู่เมืองไทย  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า อย่างกรุงเทพฯ มีร้านกาแฟเจ้แอ๊ว ไก่ย่างเมืองทอง ไก่กรอบป้าแก้ว ส้มตำก็ชอบ ไปเชียงใหม่ก็ไปกินน้ำเงี้ยวพี่หอมที่อยู่ตลาดสันกำแพง หรือก๋วยเตี๋ยวลุงเตย ทานข้าวมันไก่ศาลากลางฯ ลิ้มเหล่าโหงวนี่ก็จะทานบ่อย ไปอีสานก็ต้องรู้ว่าต้องขอขนมปังจากเวียดนาม มีกุนเชียง หมูยออยู่ข้างใน แหนมเนือง ไส้กรอกอีสานเป็นต้น

ถามเรื่องสถานการณ์ปัจจุบันว่าได้ติดตามเรื่องการเมืองไทย สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ ตอบว่าก็ติดตามตลอด เราก็เรามาเกือบสิบปีก็คอยติดตามอ่านข่าวสารอยู่ตลอด เป็นห่วง เรื่องเศรษฐกิจ ราคาข้าวของสินค้าที่แพงขึ้น แต่เรื่องรายได้ในกระเป๋าของพี่น้องประชาชนไม่ขึ้น ในเรื่องค่าแรงงานช่วงที่ลำบากยังเจอภาวะเรื่องโรคโควิดระบาดอีกเหมือนเป็นการซ้ำเติม ทำให้เรารู้ว่าพี่น้องประชาชนไม่มีมทางออก เราก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะเราก็อยู่ห่างไกล ไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว ได้แต่ส่งกำลังใจหวังว่าอยากให้ทุกคนเข้มแข็ง อยากให้รัฐบาลช่วยพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่าอยากเป็นนายกฯอีกสักสมัยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ตอนนี้หมดยุค เป็นรุ่นสมัยใหม่แล้ว เป็นเด็กรุ่นใหม่ก็มีความสามารถเยอะ ต่อคำถามถึงเรืองอายุ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ตอนนี้ห้าสิบก่ว่าแล้วนะ ใกล้ปลดระวาง  จะบอกว่าจะเอาใครมาเป็นนายกฯไม่ได้หรอก อันที่จริงต้องฟังเสียงประชาชน อยากให้ใครบริหารประเทศ สำคัญที่สุด ประเทศไทยมีคนที่มีความรู้ความสามารถมาก ส่วนตัวตนเองไม่ว่าสถานะไหนเราก็อยากช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ประเทศไทยเป็นบ้านเกิด เรารักผูกพัน แม้อยู่ที่นี่แต่ใจก็ยังอยู่ที่ไทยตลอดเวลา

ต่อคำถามว่าถ้าเป็นนายกฯ นโยบายอะไรที่จะสานต่อ หรืออยากมีนโยบายใหม่ๆที่น่าสนใจบ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่า จริงๆ อย่างน้อยตอนนั้น นโยบายหลายๆ ตัวที่เราออกไปแล้วก็ยังต้องสานต่อให้เสร็จ โดยเฉพาะโครงการใหญ่ๆ อย่างเช่นเรื่องของโครงการ 2 ล้านล้าน ทำเรื่องรถไฟความเร็วสูง เรื่องการบริหารจัดการน้ำ ตอนนั้นที่เป็นรัฐบาลปีที่ 3-4 ที่จะคิดถึงเรื่องการวางอนาคตข้างหน้าแล้ว ช่วง 2-3 ปีแรกเรามุ่งในเรื่องของการแก้ปัญหา เรื่องของหนี้สิน เรื่องของรายได้ให้พี่น้องประชาชน ก็เริ่มวางไปข้างหน้าไปถึงยุทธศาสตร์จังหวัดเพื่อที่จะสร้างความแตกต่างแต่ละจังหวัด เพื่อกระจายเจริญจากเมืองหลวงไปยังภูมิภาคต่างๆ ให้เกิดความเท่าเทียมกัน อันนี้ก็พยายามทำอยู่แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่มีโอกาสได้สานต่อพวกนี้แล้วก็นโยบายบางส่วนที่ริเริ่มไปก็ถูกยกเลิกไป ก็เสียดาย อย่างแท็บเล็ตพีซีก็เหมือนกัน ถ้าติดตามข่าวเห็นนักศึกษาฆ่าตัวตาย กลุ้มใจเรื่องการเรียนออนไลน์ เราไม่อยากเห็นข่าวอย่างนั้น ป่านนั้นแท็บเล็ตพีซีก็แจกไปนานแล้ว ได้มีการใช้กันต่อเนื่องอยู่แล้ว ถ้าวันนี้มาถึงเรื่องของการเวิร์ค ฟรอม โฮม เลิร์น ฟรอม โฮม อยู่แล้ว ถ้ามีการสานต่อวันนั้น ทุกอย่างก็คงจะพร้อมอยู่แล้วในเรื่องของซิสเต็ม

เกี่ยวกับโครงการ 2 ล้านล้าน รถไฟความเร็วสูง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตอนนั้น เราคุยเชื่อม 3 ประเทศจากไทยไปลาวแล้วก็จีน เราทำพร้อมกัน ทำ 3 ปาร์ตี้ ตั้งใจว่ารถไฟความเร็วสูงจะเชื่อมเมืองต่อเมืองในประเทศไทย เพื่อให้สะดวก เชื่อมเมืองท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดรายได้ เชื่อมเมืองที่ประชากรมาก เชื่อมพวกโลจิสติกส์จากโรงงานไปยังปลายทางไปยังจุดขาย ต้นทุนจะลดลง เชื่อมจากไทยไปสู่ภูมิภาคอาเซียน เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียนจริงๆในตอนนั้น

ส่วนเรื่องที่เป็นเพศหญิงเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกและเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหญิงอีกด้วย มีความหนักใจและลำบากอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ในฐานะนายกฯไม่ว่าหญิงหรือชายก็ยากอยู่แล้ว ตอนนั้นอยู่ในช่วงมีความขัดแย้ง มีช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยมากอยู่แล้ว เราก็ต้องมาสานต่อ เรื่องหนี้สินประชาชน ปัญหาเศรษฐกิจ ทำอยางไรให้ไทยเป็นผู้นำอาเซียน ผู้หญิงยิ่งยากลำบากกว่าเพราะการคาดหวังเยอะ เขามไม่มองวาเรา มองว่าทำไม่ได้อ่อนแอบ้าง ต้องทำงานหนักเป็นสองเท่า ความเป็นผู้หญิงไม่ดได้ทำให้งานลดน้อยลงไป การเป็นรมว.กลาโหม ก็ท้าทายมากที่ทำงานกับเหล่าทัพ ต้องสั่งงาน ต้องใช้ข้อกฎหมาย ไม่สามารถสั่งการได้โดยตนเอง ต้องนั่งในที่ประชุมสภากลาโหม วางนโยบายในตรงนั้นจะถูกต้อง  ถามว่าถ้าเจอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาจะยังคงคุยกันได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่าต้องถามพล.อ.ประยุทธ์ ดีกว่า

เมื่อถามถึงนโยบาย เรื่องยูเส็ป หรือบริการแพทย์ฉุกเฉินที่ริเริ่มในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า โครงการนี้ตนไปเห็นก่อนที่จะมาเป็นนายกฯ ได้ไปเยี่ยมเยียนชาวบ้านตามโรงพยาบาลในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทยก่อนไปฟังเห็นว่าปัญหาคือพี่น้องประชาชนในกรณีฉุกเฉิน ไม่สามารถขอใช้ประกันเบิกจ่ายได้ ต้องรอว่าเบิกได้หรือเปล่า อาจจะเสียชีวิตไปตอนนั้นก็ได้ วิกฤติตรงนั้นใครจะดูแล พอเป็นรัฐบาลก็มาประชุมแล้วก็บูรณาการทั้งสามกองทุนนี้ให้ได้สิทธิตรงนี้ ที่เรียกว่า บริการแพทย์ฉุกเฉิน คือป่วยที่ไหนฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมง เข้าไปรักษาได้ทุกโรงพยาบาล แล้วตอนนั้นเอกชนต้องรับด้วยแล้วค่อยเคลียร์ค่าใช้จ่ายตอนหลังก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่เขามีประกันสุขภาพหรือว่า 30 บาทรักษาทุกโรค ได้ ค่อยว่ากัน ต้องช่วยชีวิตคนที่อุบัติเหตุหรือวิกฤตจะเสียชีวิตให้รอดเสียก่อน ก็ช่วยได้หลายคน ตนก็รู้สึกภูมิใจที่มีคนเขียนเฟซบุ๊กบอกว่าแม่เขาประสบเหตุวิกฤตจะต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งพอทราบค่ารักษาก็อยากจะเป็นลมไปเลย แต่พอทราบว่าเบิกค่ารักษาได้ เขาก็รู้สึกสบายใจและแม่ก็รอดชีวิตกลับมา นี่คือตัวอย่างหนึ่งจากที่คิดโครงการนี้ขึ้นมา

ส่วนสมัยที่ประกาศนโยบายค่าแรงขั้นต่ำและเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุฮือฮาในปี 2554 เทียบในปัจจุบันก็ยังไม่พอต่อค่าครองชีพ มีความเห็นอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่า ที่จริงรัฐบาลต้องดูแล ต้องคำนวณค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพที่สูงขึ้นจะเพิ่มค่าแรงได้อย่างไรให้ผู้ใช้แรงงานเพียงพอต่อค่าครองชีพ แต่ยังไม่ถาวรว่าจะทำอย่างไรให้เขามีรายได้ให้กับประเทศให้กับทุกคน ฉะนั้นถ้าทำประเทศมีรายได้มีนักท่องเที่ยวมา เศรษฐกิจดีขึ้น นักธุรกิจก็จะมีรายได้ เขาก็จะมีเงินในการที่จะขึ้นเงินเดือน ขึ้นค่าแรงด้วย จะใช้วิธีขึ้นค่าแรงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป

ต่อคำถามเรื่อง “น้องไปป์” บุตรชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์  เล่าว่า ตอนนั้นน้องไปป์อายุ 9 ขวบ เรียนที่โรงเรียนฮาร์โลว์ ตอนนี้เรียนที่อิมพิเรียลคอลเลจ ที่ลอนดอน เรียนสาขาแมคคาทรอนิกส์และสาขาฟลูอิดแมคคานิก 2 สาขา แมคคาทรอนิกส์เป็นวิชาเกี่ยวกับบูรณาการระหว่างวิศวะช่างกล เครื่องยนต์ ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ มาบูรณาการรวมกันมาคิดในเรื่องของการพัฒนาเครื่องจักรขึ้นมา ซึ่งในอนาคตก็จะประยุกต์ได้ในเรื่องของการสร้างหุ่นยนต์ เรื่องของเอไอ อะไรพวกนี้ อีกอันคือฟลูอิด แมคคานิก คือกลศาสตร์การไหล เกี่ยวกับการคำนวณเรื่องของลม ของเหลว น้ำ พยายามทำความเข้าใจลูก เป็นศาสตร์ที่รวมกัน ซึ่งน้องไปป์เขาชอบ แต่ตอนนี้เรียนออนไลน์ด้วยก็ลำบาก ซึ่งเขาเลือกเรียนเอง ตนก็บอกว่าถ้าเรียนแบบนี้ก็ต้องเลือกที่หันไปทิศทางเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นอย่างพวกหุ่นยนต์ สุดท้ายก็คงไปเรียนในช่วงปี 3 ปี 4

ส่วนคำถามเรื่องแนวคิดการทำงานเพื่อแนะนำคนรุ่นใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วคนรุ่นใหม่จะรอบรู้เยอะ ข้อมูลมีหรือ information everywhere สามารถที่จะค้นหาได้ แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อค้นหาได้แล้ว จะต้องทำให้เกิดขึ้นจริงได้ เพราะฉะนั้นพยายามที่จะคิดในเรื่องของการปฏิบัติให้ชัดแล้วก็วางobjectiveให้ชัดในเรื่องของการทำงาน แล้วเราก็จะได้คนที่มีความรู้และปฏิบัติจริง เพราะบางครั้งเราได้คนที่มีความรู้มากจริงแต่ขาดการปฏิบัติ ดังนั้นเราจะหนักทางด้านวิชาการ แต่ไม่ได้เน้นการปฏิบัติ จึงต้องทำให้สัมพันธ์กัน จะทำยังไงจากสิ่งที่เราคิดมาเป็นภาคปฏิบัติให้ได้ แล้วต้องคำนึงถึงที่เรียกว่าความเป็นจริงให้ได้ ต้องทำควบคู่กันไป อันที่สองเทคโนโลยีมาเยอะ บางครั้งการสัมผัสในเรื่องของฮิวแมนหรือเรื่องคนก็สำคัญเหมือนกัน เพราะเราเองไม่ได้ทำงานอยู่แต่หน้าจอ เราต้องทำงานอยู่กับคนหมู่มาก ฉะนั้นบางครั้งสิ่งที่เป็นสิ่งใหม่ ที่เด็กรุ่นใหม่จะเน้นคุยกับคอมฯได้มากกว่าคุยกับคน ต้องรักษาสมดุลให้ดี ทำให้เกิดได้ทั้งสองอย่างก็จะเป็นสิ่งที่ดีมาก

ต่อคำถามเรื่องเยาวชนมีบทบาทมากกับการเมืองไทยในปัจจุบัน เรื่องของการชุมนุม มีความเห็นอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า  ต้องถามว่าสนใจเป็นนักการเมืองหรือสนใจการเมือง ถ้าสนใจนักการเมืองก็ต้องคุยกันอีกยาว แต่ถ้าสนใจการเมือง อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ดี เยาวชนรุ่นใหม่มีความรู้ความเข้าใจ เห็นอะไรเยอะ มีข้อมูลข่าวสารเยอะ ก็มีความสนใจ เพราะเขาอยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาไปในทางที่ดี อยากมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเพื่ออนาคตของเขา อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ดี เราในฐานะของผู้ใหญ่ก็ควรจะรับฟัง การรับฟังคนรุ่นใหม่ การคุยกันกับคนรุ่นใหม่จะต่างกับคนรุ่นเก่า คือพูดอะไรไปก็จบ แต่รุ่นใหม่ไม่ได้ ไปบอกแบบนี้ เด็กรุ่นใหม่เขาต้องการเหตุผล ต้องการรู้ต้องการความเข้าใจ มันเหมือนกับเรามีลูกคนหนึ่ง ลูกต้องการแบบนี้ เราคุยกับลูกเรายังต้องใจเย็นๆ เลย เราต้องอธิบายทีละข้อ เราควรให้โอกาสเด็กเยาวชน ในการแลกเปลี่ยน พูดจากัน ทำความเข้าใจให้มากที่สุดจะเป็นสิ่งที่ทำให้น้องๆเยาวชนได้มีส่วนร่วมได้แสดงความคิดเห็นเต็มที่ เปิดพื้นที่ให้กับเยาวชน

ส่วนคำถามว่าบุคลิกเป็นคนใจเย็นมาก มีคนถามว่าด่าเป็นหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หัวเราะก่อนตอบว่า จริงๆก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งปุถุชนคนหนึ่ง บางทีก็มีโมโหโกรธ แล้วก็เสียใจ  แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไประบายกับคนรอบข้าง ไม่อยากให้ทุกคนรู้สึกว่าไม่สบายใจกับเราการที่เราทำงานกับคนหมู่มาก โดยเฉพาะตอนเป็นนายกรัฐมนตรี เราก็ต้องใจเย็น เพราะทุกคนคนอื่นไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยทำไมต้องรับรู้กับการอารมณ์เสียของเรา ฉะนั้นเราก็ต้องไปคุยกับรอบข้างระบาย หาวิธีการระบายความเครียดของตัวเองให้ได้ บางทีตื่นมาไม่อยากอ่านหนังสือพิมพ์เลยเพราะกลัวโดนด่า แต่คิดว่าตรงนี้เป็นฟีดแบ็กที่เราต้องแก้ ตอนแรกๆ ก็เป็น แต่ตอนหลังก็ต้องฟัง เพื่อรู้ว่าเขาคิดยังไงกับเรา สิ่งที่เราทำอย่างนี้ไม่ใช่นะ เขาคิดว่าไม่ตรงกันนะ ต้องฟังให้คิดว่าเป็นงาน อย่าเอาอารมณ์มาเป็นตัวนำในการทำงานหรือสื่อสารบอกคน

ขอบคุณที่มาคลิป ; Yingluck Shinawatra FB

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts