วันเสาร์, พฤษภาคม 18, 2024
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่ชาวนา จ. ศรีสะเกษ แห่ร้อง ปคบ.ขายข้าวให้บริษัทฯ นาน 5 เดือนยังไม่ได้เงิน เสียหายกว่า 36 ล้านบาท

Related Posts

ชาวนา จ. ศรีสะเกษ แห่ร้อง ปคบ.ขายข้าวให้บริษัทฯ นาน 5 เดือนยังไม่ได้เงิน เสียหายกว่า 36 ล้านบาท

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 ส.ค.66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.

นายธมะนันท์ แตงทิม หรือ”จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ นำผู้เสียหายกลุ่มชาวนา จาก อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ กว่า 30 คน ถือป้ายร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมนำต้นข้าวและข้าวเปลือกมาด้วย โดยมี ร.ต.อ.ธีรพล หงส์ศรี รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. เป็นผู้รับคำร้อง

จ่าคิงส์ เปิดเผยว่า ชาวนาได้นำข้าวเปลือกไปฝากขายให้กับร้านค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ นานกว่า 5 เดือน แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าข้าวเปลือกที่ฝากขาย และแจ้งความไว้แล้วแต่คดีไม่มีความคืบหน้า ไม่มีการออกหมายเรียก หรือหมายจับ ร้านค้าที่รับฝากข้าวจากชาวนา และไม่มีแม้กระทั่ง นัดคู่กรณี มาเจรจาเพื่อคืนเงินให้กับชาวนาแต่อย่างใด

ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านกลุ่มนี้ ที่ร้องเรียนผ่านเพจเฟซบุ๊ก “จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่” ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่นำข้าวเปลือกไปฝากขาย แต่ทางร้านค้าไม่ยอมจ่ายเงินให้ โดยมีผู้เสียหายกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท หลังได้รับเรื่องร้องเรียน จึงประสานตำรวจกองปราบปราม และได้นำผู้เสียหาย มาแจ้งความที่กองปราบปราม ในวันนี้

นายสมชาย (นามสมมุติ)ตัวแทนชาวนา ในฐานะผู้เสียหายรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า ตนเอง มีข้าวเปลือก 40 ตัน ได้นำไปฝากขายที่ร้านค้าแห่งหนี้ ซึ่งเปิดเป็นบริษัทรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา เพื่อนำไปส่งขายให้กับโรงสีข้าว โดยทางร้านค้าแห่งนี้ ยื่นข้อเสนอว่า ถ้าหากรับเงินในวันที่ขายข้าวเปลือกจะได้ราคากิโลกรัมละ 8 บาท แต่ถ้ารับเงินในอีก 6 เดือนข้างหน้า จะได้ในราคากิโลกรัมละ 12 บาท ทำให้ตนเองอยากได้เงินมากขึ้น จึงรับข้อเสนอดังกล่าว แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงเวลาที่ต้องได้เงิน จึงไปติดต่อที่ร้านค้าแห่งนี้ กลับบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมจ่ายเงิน โดยอ้างว่า ทางโรงสี ไม่จ่ายเงินให้ จึงไม่มีเงินมาให้ชาวนา ทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อน และไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ไพรบึง แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงรวมตัวกันมาร้องเรียนที่กองปราบปรามวันนี้

นายสมบัติ (นามสมมุติ) ผู้เสียหายอีกราย เล่าว่า ตนเอง นำข้าวเปลือก จำนวน 80 ตัน ไป ขายให้กับร้านค้าแห่งนี้ แต่เมื่อได้เงินมาแล้ว ทางร้านค้าแห่งนี้ ได้ขอยืมเงินต่อ โดยอ้างว่าจะได้ดอกเบี้ย พร้อมยกตัวอย่างว่า ขายข้าวได้ 1 แสนบาท ทางร้านค้ายืมเงินกลับไป และบอกว่าจะได้ดอกเบี้ย 20,000 บาท ตนเองเห็นว่าเหมือนฝากเงินไว้ แล้วได้ดอกเบี้ย จึงเชื่อใจให้ทางร้านค้ายืมเงิน แต่สุดท้าย ก็ยังไม่ได้เงินกลับคืนมาเลย

อย่างไรก็ตาม จ่าคิงส์ ฝากไปถึงตำรวจ สภ.ไพรบึง และ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 ให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดีนี้ เพราะเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องชาวนา ในจังหวัดศรีสะเกษ

เบื้องต้น พบว่ามีผู้เสียหายแยกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นชาวนาที่เอาข้าวไปขายฝากกับบริษัทฯ นี้ กลุ่มที่ 2 เสียหายจากการเอาเงินไปร่วมทุนฝากซื้อข้าว กลุ่มที่สามเสียหายทั้งเงินทั้งฝากขายข้าว มูลค่าความเสียหายแต่ละรายไม่เท่ากัน มีตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท เฉพาะที่เดินทางมาร้อง บช.ก.วันนี้มีจำนวน 72 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 36 ล้านบาท

ด้าน ร.ต.อ.ธีรพล กล่าวหลังสอบถามผู้เสียหาย พบว่าได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ พงส.สภ.บึงไพร จ.ศรีสะเกษ แล้วจำนวนกว่าครึ่ง พนักงานสอบสวนทำคดีฉ้อโกง ส่งอัยการแล้ว เรื่องอยู่ในชั้นอัยการพิจารณาอยู่ หากชาวบ้านประสงค์ทราบความคืบหน้าก็แนะนำให้ไปสอบถามได้

จึงแนะนำผู้เสียหายพร้อมทั้งประสานไปยัง รอง ผกก.(สอบสวน) แจ้งว่าใครยังไม่แจ้งความก็ให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีบริษัทฯ ดังกล่าวได้ทันทีทำให้บรรดาผู้เสียหายชาวบ้านชาวนาศรีสะเกษ ที่มาแจ้งความ บก.ปคบ.วันนี้พอใจ ต่างขอบคุณตำรวจ บก.ปคบ.ก่อนพากันเดินทางกลับ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts