วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่กลุ่มผู้เสียหายร่วมลงทุนระดมซื้อขายหุ้นของบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ตามสูตรอ้างจะให้เงินปันผล 20-30% สุดท้ายตัดการติดต่อหลบหนีไปก่อนจะกลับมาตั้งบริษัทใหม่พบมีผู้เสียหายรวมมากกว่า 80 คนมูลค่าความเสียหาย 150-200 ล้านบาท

Related Posts

กลุ่มผู้เสียหายร่วมลงทุนระดมซื้อขายหุ้นของบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ตามสูตรอ้างจะให้เงินปันผล 20-30% สุดท้ายตัดการติดต่อหลบหนีไปก่อนจะกลับมาตั้งบริษัทใหม่พบมีผู้เสียหายรวมมากกว่า 80 คนมูลค่าความเสียหาย 150-200 ล้านบาท

กลุ่มผู้เสียหายประมาณ 10 คนเข้าร้องเรียนต่อศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้ช่วยสืบสวนกรณีการหลอกให้ซื้อหุ้น ipo ของบริษัทเคพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกเสนอขายในจังหวัดอุบลราชธานีรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะได้เงินปันผลจากการทำกำไรหุ้นดังกล่าวประมาณ 20%

ผู้เสียหาย เล่าว่า ผู้บริหารของบริษัทดังกล่าว เพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันกับผู้เสียหาย โดยรูปแบบผู้ก่อเหตุจะชักชวนตรงไปยังผู้เสียหายแต่ละคนเมื่อปลายปี 2564 ให้มาเป็นพนักงานขายหุ้นให้กับบริษัทดังกล่าวโดยจะได้รับเปอร์เซ็นต์จากการขายหุ้นทำกำไรประมาณ 20-30% จึงทำให้กลุ่มผู้เสียหายสนใจและมาสมัครเป็นพนักงานขายโดยมีการไประดมทุนเป็นเงินส่วนตัวและเงินจากกลุ่มญาติคนรู้จักในจังหวัดอุบลราชธานีมาลงทุนกับบริษัทดังกล่าว เฉพาะในจังหวัดอุบลราชธานีประมาณ 50 ล้านบาท แต่หากรวมจากทั่วประเทศแล้วจะมีมูลค่ามากถึง150 ถึง 200 ล้านบาท โดยในช่วงแรกผู้ก่อเหตุจ่ายเงินปันผลให้ตรงตามที่ตกลงกันไว้ 1-2 งวด จากนั้นก็เริ่มบ่ายเบี่ยงอ้างว่าบริษัทมีเงินลงทุนและผลกำไรเข้ามาในบัญชีของบริษัทมากผิดปกติจนทำให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือปปง. อายัดบัญชีของบริษัททั้งหมดจนไม่สามารถจ่ายเงินให้กับนักลงทุนได้ ก่อนจะตัดการติดต่อและหลบหนีไป จนทำให้ผู้เสียหายหลายคนได้รับความเดือดร้อนและเข้าแจ้งความกับหลายหน่วยงานทั้งตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI แต่ก็ไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับเนื่องจากกลุ่มผู้เสียหายกระจายกันไปแจ้งความหลายหน่วยงานจนทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางคดีได้

ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายหลายคนซึ่งเป็นพนักงานบริษัทได้รับความเดือดร้อนจากการไประดมเงินลงทุนและถูกแจ้งความดำเนินคดีในฐานะแม่ข่ายแชร์ลูกโซ่ ครั้งนี้ผู้เสียหายที่ลงทุนกับบริษัทดังกล่าวมากที่สุดถึง 2 ล้านบาท

อีกครั้งจากการตรวจสอบไปยังสำนักงานปปงพบว่าไม่ได้มีการอายัดเงินในบัญชีดังกล่าวและยังพบว่ามีการตกแต่งเลขงบดุลบัญชีและปลอมแปลงเอกสารเป็นจำนวนมาก

ครั้งนี้ล่าสุดพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้กลับมาตั้งบริษัทใหม่ร่วมกับทหารยศนายพลและกลุ่มผู้ร่วมลงทุนอีกจำนวนมากซึ่งมีลักษณะคล้ายกับบริษัทที่กลุ่มผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนจึงอยากให้ตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทุกคน อีกครั้งพบว่าชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts