วันที่ 17 ส.ค. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางมายังสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อเข้าพบพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และยื่นเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินย่านถนนสารสิน และที่ดินย่านซอยทองหล่อ 12 เพื่อขอให้ตรวจสอบคณะกรรมการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นนอมินีซื้อขายที่ดินย่านถนนสารสิน และที่ดินย่านซอยทองหล่อ 12 ว่า มีการกระทำการหลบเลี่ยงภาษี และจัดตั้งนอมินีเพื่อซื้อขายที่ดินหรือไม่ โดยสำหรับการซื้อขายที่ดินย่านสุขุมวิท 12 นั้น จะขอให้เชิญนายแพทย์โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง, แม่บ้าน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่มีชื่อปรากฏเป็นผู้ขายที่ดินและกู้ยืมเงินจากบริษัทแสนสิริมา สอบถามข้อเท็จจริงในการซื้อขายที่ดินผืนดังกล่าว รวมถึงให้สอบสวนกรณีที่พบว่ามีการทำ 3 นิติกรรมในวันเดียวกัน คือ เปลี่ยนโครงสร้างบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ด้วยการเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้น, กู้เงิน 1 พันล้านบาทจากบริษัท อาณาวรรธน์ จำกัด และการปลดจำนองหนี้กับธนาคาร 465 ล้านบาท
โดยนายชูวิทย์อ้างว่า หากพฤติการณ์ของบริษัทแสนสิริเป็นนิติกรรมอำพรางและเข้าข่ายฉ้อโกงจริง จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงต้องการให้มีการตรวจสอบ และไม่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นเรื่องประเด็นการเมือง นอกจากนี้ ในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคมนี้ นายชูวิทย์จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของนายทุนเป็นครั้งสุดท้าย รวมถึงการไซฟ่อนเงินไปยังบริษัทในต่างประเทศกว่า 1,200 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จะรับเรื่อง ไว้ดำเนินการทั้งหมด และจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกกรณี โดยยืนยันจะทำให้ความจริงปรากฏอย่างตรงไปตรงมา และดำเนินการในส่วนที่พบการกระทำผิดตามอำนาจหน้าที่ แต่ถ้าไม่พบความผิด ก็ต้องไม่ผิด