วันพุธ, พฤศจิกายน 27, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมพงส.บก.ปปป.เรียกหญิงผู้เสียหายยืนยันคำให้การเดิม เอาผิด พงส.และนายดาบ สภ.นาหินลาด ปฏิบัติมิชอบฯ

Related Posts

พงส.บก.ปปป.เรียกหญิงผู้เสียหายยืนยันคำให้การเดิม เอาผิด พงส.และนายดาบ สภ.นาหินลาด ปฏิบัติมิชอบฯ

“…จากกรณี นางปาน ธิติยา อายุ 44 ปี หญิงผู้เสียหายชาว จ.นครนายก เข้าพบ พงส.สภ.นาหินลาด เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ปมถูก ดต.สภ.นาหินลาด ขับรถปาดหน้าชิงทรัพย์ไป และต่อมาตำรวจได้นำบุคคลอื่นมาให้ชี้ตัว ซึ่งตนยังยืนยันว่าไม่ชี้ ด้วยจำได้ว่าเป็น ดต.วิบูลย์ เพราะตนก็ยังยืนยันว่าจำหน้าได้เป็นอย่างดี…ต่อมา จึงเดินทางเข้าร้องต่อ บก.ปปป.เพราะเห็นว่าผ่านไป 2 เดือนคดียังไม่คืบหน้า โดยวันนี้ นางปาน ธิติยา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คดีที่ตนมาร้องการปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ของ พงส.สภ.นาหินลาด และ นายดาบตำรวจฝ่ายสืบสวนท่านนั้น ตนยังคงยืนยันตามคำให้การเดิม ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องโกรธเคืองกับคนที่ตนกล่าวหามาก่อน ทาง พงส.บก.ปปป.จะสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.ในวันพรุ่งนี้ ถ้า ป.ป.ช.รับก็จะสอบสวนเอง ถ้าส่งคืนมาก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป…”

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ส.ค.66 ที่ ชั้น 15 อาคารพิทักษ์สันติ กก.2 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นางปาน ธิติยา อายุ 44 ปี หญิงผู้เสียหายชาว จ.นครนายก เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ยศสรัล ใจเสาร์ดี สว.(สอบสวน) บก.ปปป.เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีที่มาแจ้งความร้องทุกข์ ไว้เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้ดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.นิรันดร์ และ ด.ต.วิบูลย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหินลาด ภ.จว.นครนายก ปฏิบัติ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ จากเหตุเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2566 เวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง หลังเลิกงานจากร้านอาหาร(สงวนชื่อร้าน) ระหว่างทางได้มีรถยนต์กระบะของ ด.ต.วิบูลย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหินลาด ภ.จว.นครนายก (ทราบชื่อภายหลัง) ไม่สวมเครื่องแบบ ขับปาดหน้ารถจักยานยนต์ผู้เสียหาย อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ บังคับให้จอด บอกผู้เสียหายว่าติดตามหารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นรถต้องสงสัยจะเอาไปตรวจสอบ แล้วเอากระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และกุญแจรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป และพยายามชวนขึ้นรถไปด้วยแต่ขณะนั้นได้มีแสงไฟรถยนต์ที่สัญจรผ่านมา ด.ต.วิบูลย์ จึงขับรถยนต์กระบะหนีไปพร้อมทรัพย์สินผู้เสียหาย

จากนั้นผู้เสียหายไปร้องขอความช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านพาเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.นิรันดร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาหินลาด เมื่อเวลา 23.55 น. วันเดียวกัน แต่คดีไม่มีความคืบหน้า

นอกจากนี้ยังมีการนำบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องในคดีมาให้ผู้เสียหายชี้ตัวว่าเป็นผู้กระทำผิด

ต่อมาวันที่ 19 ส.ค. พ.ต.ท.ธงชัย หริ่มสืบ สว.สภ.นาหินลาด ภ.จว.นครนายก บช.ภ.2 ชี้แจงว่าตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลต่างๆ จากกรณีสาวร้อง #ตำรวจกลายเป็นโจร# สาวเจ้าทุกข์เผยไม่ชี้ตัวผู้ต้องหา ยันจำหน้า “ตำรวจโจร” ได้ “เลว” เต็มคาลาเบล!” ตำรวจนครนายก “เอาผู้บริสุทธิ์” มาให้สาวร้องอาหารผู้เสียหาย คดีชิงทรัพย์ “ชี้ตัว” หวัง” ให้คนร้ายในเครื่องแบบตำรวจ “ลอยนวล” ผ.บช.ภ.1 ผบ.ตร.ว่าไง?

พนักงานสอบสวน สภ.นาหินลาด ได้รับแจ้งและรับคำร้องไว้ตามกฎหมายแล้วได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเรื่อยมาจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่กระทำความผิดและสามารถติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิด (คนร้ายตัวจริง ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่เป็นข่าว) ได้พร้อมทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายเอาไปในวันเกิดเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว เมื่อวันที่ 17 ส.ค.66 โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และได้นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ ขณะนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาล คดีอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อนึ่ง การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ได้กระทำการตามอำนาจหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความเป็นกลางเพื่อพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาและให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม

ผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวน สภ.นาหินลาดนำมาให้ นางปาน ธิติยา ชี้ตัว แต่เจ้าทุกข์ยืนยันว่าไม่ชี้ เพราะไม่ใช่คนร้ายที่เกิดเหตุ

โดยวันนี้ นางธิติยา เปิดเผย เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ว่า ตนได้ไปให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.วิทวัส กองคำ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านนา ปฏิบัติราชการ สภ.นาหินลาด ตามที่มีหมายเรียกตนเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ให้มาพบเพื่อให้ปากคำอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีการนำภาพถ่ายบุคคลอื่นเป็นผู้ชาย มาให้ดูซึ่งมีรอยสักเต็มตัว จำชื่อได้ว่านายประพัทพงศ์ ตนยืนยันว่าไม่ใช่บุคคลที่ก่อเหตุขับรถปาดหน้าจะยึดรถ จยย.ไปตรวจ และชิงทรัพย์ไป คนที่เอาทรัพย์ตนไปคือเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของ สภ.นาหินลาด แน่นอน

พร้อมกับนำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ วีโว่ ที่ไม่ใช่ของตนมาให้ดู แจ้งว่าเป็นทรัพย์ที่คนร้ายชิงทรัพย์ตนไปเมื่อคืนวันที่ 20 มิ.ย.มาให้ดู แต่ตนดูแล้วยืนยันว่าไม่ใช้โทรศัพท์มือถือของตนแน่นอน ตนจดจำมือถือของตัวเองได้แม่น แม้จะยี่ห้อเดียวกัน ซื้อมาใช้ได้ 2 ปี ราคา 1.2 หมื่นบาท มีข้อแตกต่างคือเคสที่ใส่เปลี่ยนไป พนักงานสอบสวน บอกคนร้ายอ้างว่าได้ไปซื้อเคสใหม่มาใส่แทนแล้วเอาโทรศัพท์เคลื่องนี้มาใช้งานโดยล้างข้อมูลเดิมของตนออกไปหมดแล้ว แต่เมื่อจะขอเปิดดู ตำรวจไม่ยอมให้หยิบจับดูอ้างว่าข้อมูลใหม่ของคนร้ายก็ล้างทิ้งหมดแล้วเช่นกัน ตนจึงให้การว่าทรัพย์สินโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวไม่ใช่ของตนที่ถูกชิงทรัพย์ไปแน่นอน

นอกจากนั้น กระเป๋าหนัง สีดำภายในมีบัตร เอทีเอ็ม ธนาคาร ธกส. 1 ใบ และบัตรประชาชน กับ พวงกุญแจรถ จยย. 2 ดอก มีตุ๊กตากบเคโระ 1 ตัว ก็ไม่ได้คืน พนักงานสอบสวนบอกว่าคนร้ายที่จับได้ให้การว่าเอาไปทิ้งเกาะกลางถนนตรงสี่แยกโคกกระโดนใกล้ป้อมตำรวจ แต่ไม่สามารถติดตามมาคืนได้

นอกจากนี้พนักงานสอบสวนได้นำรถปิคอัพโตโยต้า ไทเกอร์ มาให้ชี้ด้วย ตนได้ยืนยันชี้ว่าเป็นคันที่ก่อเหตุ วันเกิดเหตุไม่มีหลังคา แต่ตนจำตำหนิรอยบุบที่เหนือฝาถังน้ำมันได้ ไม่ใช่คันอีซูซุ ที่เอามาให้ดูในครั้งก่อน

หลังจากเกิดเหตุแล้วตนก็ไม่ได้ไปทำงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารอีก เพราะมีความกลัว จะไม่ได้รับความปลอดภัย มีภาระต้องดูแลแม่วัย 85 ปี กับลูกชายอีกคน รับจ้างรีดผ้าก็พอจะมีรายได้มาชดเชยบ้าง เกิดมาก็เพิ่งจะมีคดีความในชีวิตเป็นครั้งแรก คนที่ตนกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เองด้วย

ภายหลังให้ปากคำ พงส.บก.ปปป. นางปาน ธิติยา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีที่ตนมาร้องการปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ของ พงส.สภ.นาหินลาด และ นายดาบตำรวจฝ่ายสืบสวนท่านนั้น ตนยังคงยืนยันตามคำให้การเดิม ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องโกรธเคืองกับคนที่ตนกล่าวหามาก่อน ทาง พงส.บก.ปปป.จะสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.ในวันพรุ่งนี้ ถ้า ป.ป.ช.รับก็จะสอบสวนเอง ถ้าส่งคืนมาก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

#สืบจากข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts