“…จากกรณี นางปาน ธิติยา อายุ 44 ปี หญิงผู้เสียหายชาว จ.นครนายก เข้าพบ พงส.สภ.นาหินลาด เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ปมถูก ดต.สภ.นาหินลาด ขับรถปาดหน้าชิงทรัพย์ไป และต่อมาตำรวจได้นำบุคคลอื่นมาให้ชี้ตัว ซึ่งตนยังยืนยันว่าไม่ชี้ ด้วยจำได้ว่าเป็น ดต.วิบูลย์ เพราะตนก็ยังยืนยันว่าจำหน้าได้เป็นอย่างดี…ต่อมา จึงเดินทางเข้าร้องต่อ บก.ปปป.เพราะเห็นว่าผ่านไป 2 เดือนคดียังไม่คืบหน้า โดยวันนี้ นางปาน ธิติยา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คดีที่ตนมาร้องการปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ของ พงส.สภ.นาหินลาด และ นายดาบตำรวจฝ่ายสืบสวนท่านนั้น ตนยังคงยืนยันตามคำให้การเดิม ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องโกรธเคืองกับคนที่ตนกล่าวหามาก่อน ทาง พงส.บก.ปปป.จะสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.ในวันพรุ่งนี้ ถ้า ป.ป.ช.รับก็จะสอบสวนเอง ถ้าส่งคืนมาก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป…”
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ส.ค.66 ที่ ชั้น 15 อาคารพิทักษ์สันติ กก.2 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นางปาน ธิติยา อายุ 44 ปี หญิงผู้เสียหายชาว จ.นครนายก เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ยศสรัล ใจเสาร์ดี สว.(สอบสวน) บก.ปปป.เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีที่มาแจ้งความร้องทุกข์ ไว้เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้ดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.นิรันดร์ และ ด.ต.วิบูลย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหินลาด ภ.จว.นครนายก ปฏิบัติ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ จากเหตุเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2566 เวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง หลังเลิกงานจากร้านอาหาร(สงวนชื่อร้าน) ระหว่างทางได้มีรถยนต์กระบะของ ด.ต.วิบูลย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหินลาด ภ.จว.นครนายก (ทราบชื่อภายหลัง) ไม่สวมเครื่องแบบ ขับปาดหน้ารถจักยานยนต์ผู้เสียหาย อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ บังคับให้จอด บอกผู้เสียหายว่าติดตามหารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นรถต้องสงสัยจะเอาไปตรวจสอบ แล้วเอากระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และกุญแจรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป และพยายามชวนขึ้นรถไปด้วยแต่ขณะนั้นได้มีแสงไฟรถยนต์ที่สัญจรผ่านมา ด.ต.วิบูลย์ จึงขับรถยนต์กระบะหนีไปพร้อมทรัพย์สินผู้เสียหาย
จากนั้นผู้เสียหายไปร้องขอความช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านพาเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.นิรันดร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาหินลาด เมื่อเวลา 23.55 น. วันเดียวกัน แต่คดีไม่มีความคืบหน้า
นอกจากนี้ยังมีการนำบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องในคดีมาให้ผู้เสียหายชี้ตัวว่าเป็นผู้กระทำผิด
ต่อมาวันที่ 19 ส.ค. พ.ต.ท.ธงชัย หริ่มสืบ สว.สภ.นาหินลาด ภ.จว.นครนายก บช.ภ.2 ชี้แจงว่าตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลต่างๆ จากกรณีสาวร้อง #ตำรวจกลายเป็นโจร# สาวเจ้าทุกข์เผยไม่ชี้ตัวผู้ต้องหา ยันจำหน้า “ตำรวจโจร” ได้ “เลว” เต็มคาลาเบล!” ตำรวจนครนายก “เอาผู้บริสุทธิ์” มาให้สาวร้องอาหารผู้เสียหาย คดีชิงทรัพย์ “ชี้ตัว” หวัง” ให้คนร้ายในเครื่องแบบตำรวจ “ลอยนวล” ผ.บช.ภ.1 ผบ.ตร.ว่าไง?
พนักงานสอบสวน สภ.นาหินลาด ได้รับแจ้งและรับคำร้องไว้ตามกฎหมายแล้วได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเรื่อยมาจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่กระทำความผิดและสามารถติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิด (คนร้ายตัวจริง ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่เป็นข่าว) ได้พร้อมทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายเอาไปในวันเกิดเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว เมื่อวันที่ 17 ส.ค.66 โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และได้นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ ขณะนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาล คดีอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ได้กระทำการตามอำนาจหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความเป็นกลางเพื่อพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาและให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม
โดยวันนี้ นางธิติยา เปิดเผย เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ว่า ตนได้ไปให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.วิทวัส กองคำ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านนา ปฏิบัติราชการ สภ.นาหินลาด ตามที่มีหมายเรียกตนเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ให้มาพบเพื่อให้ปากคำอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีการนำภาพถ่ายบุคคลอื่นเป็นผู้ชาย มาให้ดูซึ่งมีรอยสักเต็มตัว จำชื่อได้ว่านายประพัทพงศ์ ตนยืนยันว่าไม่ใช่บุคคลที่ก่อเหตุขับรถปาดหน้าจะยึดรถ จยย.ไปตรวจ และชิงทรัพย์ไป คนที่เอาทรัพย์ตนไปคือเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของ สภ.นาหินลาด แน่นอน
พร้อมกับนำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ วีโว่ ที่ไม่ใช่ของตนมาให้ดู แจ้งว่าเป็นทรัพย์ที่คนร้ายชิงทรัพย์ตนไปเมื่อคืนวันที่ 20 มิ.ย.มาให้ดู แต่ตนดูแล้วยืนยันว่าไม่ใช้โทรศัพท์มือถือของตนแน่นอน ตนจดจำมือถือของตัวเองได้แม่น แม้จะยี่ห้อเดียวกัน ซื้อมาใช้ได้ 2 ปี ราคา 1.2 หมื่นบาท มีข้อแตกต่างคือเคสที่ใส่เปลี่ยนไป พนักงานสอบสวน บอกคนร้ายอ้างว่าได้ไปซื้อเคสใหม่มาใส่แทนแล้วเอาโทรศัพท์เคลื่องนี้มาใช้งานโดยล้างข้อมูลเดิมของตนออกไปหมดแล้ว แต่เมื่อจะขอเปิดดู ตำรวจไม่ยอมให้หยิบจับดูอ้างว่าข้อมูลใหม่ของคนร้ายก็ล้างทิ้งหมดแล้วเช่นกัน ตนจึงให้การว่าทรัพย์สินโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวไม่ใช่ของตนที่ถูกชิงทรัพย์ไปแน่นอน
นอกจากนั้น กระเป๋าหนัง สีดำภายในมีบัตร เอทีเอ็ม ธนาคาร ธกส. 1 ใบ และบัตรประชาชน กับ พวงกุญแจรถ จยย. 2 ดอก มีตุ๊กตากบเคโระ 1 ตัว ก็ไม่ได้คืน พนักงานสอบสวนบอกว่าคนร้ายที่จับได้ให้การว่าเอาไปทิ้งเกาะกลางถนนตรงสี่แยกโคกกระโดนใกล้ป้อมตำรวจ แต่ไม่สามารถติดตามมาคืนได้
นอกจากนี้พนักงานสอบสวนได้นำรถปิคอัพโตโยต้า ไทเกอร์ มาให้ชี้ด้วย ตนได้ยืนยันชี้ว่าเป็นคันที่ก่อเหตุ วันเกิดเหตุไม่มีหลังคา แต่ตนจำตำหนิรอยบุบที่เหนือฝาถังน้ำมันได้ ไม่ใช่คันอีซูซุ ที่เอามาให้ดูในครั้งก่อน
หลังจากเกิดเหตุแล้วตนก็ไม่ได้ไปทำงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารอีก เพราะมีความกลัว จะไม่ได้รับความปลอดภัย มีภาระต้องดูแลแม่วัย 85 ปี กับลูกชายอีกคน รับจ้างรีดผ้าก็พอจะมีรายได้มาชดเชยบ้าง เกิดมาก็เพิ่งจะมีคดีความในชีวิตเป็นครั้งแรก คนที่ตนกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เองด้วย
ภายหลังให้ปากคำ พงส.บก.ปปป. นางปาน ธิติยา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีที่ตนมาร้องการปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ของ พงส.สภ.นาหินลาด และ นายดาบตำรวจฝ่ายสืบสวนท่านนั้น ตนยังคงยืนยันตามคำให้การเดิม ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องโกรธเคืองกับคนที่ตนกล่าวหามาก่อน ทาง พงส.บก.ปปป.จะสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.ในวันพรุ่งนี้ ถ้า ป.ป.ช.รับก็จะสอบสวนเอง ถ้าส่งคืนมาก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
#สืบจากข่าว รายงาน